‘เบนซ์ พรชิตา’ เจอปัญหาใหญ่ในชีวิต อึ้ง! ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปาก ‘มิค’

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 15 มกราคม 2567

กลับมาหุ่นสวยเป๊ะแบบตัวแม่จริง ๆ สำหรับ เบนซ์ พรชิตา คุณแม่ลูกสาม ภรรยาคนสวยของ มิค บรมวุฒิ ที่ลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองใหม่แบบสวยเช้ง มองมุมไหนก็มีแต่คำว่าสวยที่จะมอบให้ งานนี้ทำเอาหลายคนอยากขอเคล็ดลับการดูแลตัวเองกันเลย เพราะอยากมีหุ่นดี ๆ แบบนี้บ้างแล้ว

‘เบนซ์ พรชิตา’ เจอปัญหาใหญ่ในชีวิต อึ้ง! ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปาก ‘มิค’

ล่าสุด (12 ม.ค.) เบนซ์ และ มิค ได้ควงแขนกันออกมารายการ แฉ พร้อมเปิดใจหลังหุ่นกลับมาสวย รวมถึงเล่าปัญหาชีวิตคู่ที่เจอในช่วงที่ สาวเบนซ์ สูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปช่วงหนึ่ง

มิค : ตอนนั้นเป็นช่วงเพิ่งท้อง แล้วฉีดยาฮอร์โมนก็ขึ้นมา 9 กิโลกรัม ตอนนั้นยกเลิกไม่ลงรูป มิคก็โทรหาเทรนเนอร์ถามว่ามีวิธีไหนที่ทำให้อ้วนเร็วที่สุด จะได้อ้วนกว่าเขา ไม่ให้คนไปทักเขา ตอนนั้นอยู่ในช่วงเตรียมที่จะมีลูก แต่ฮอร์โมนทำให้เขาขึ้นมา เขาก็เสียความมั่นใจ

เบนซ์ : คนก็ทักตกลงใครท้อง เขาก็จะแซวมิคแทน

ทำไมกลับมาผอม?
เบนซ์ : เราอยากกลับมาทำงาน ก็ทำทุกวิธี แต่เป็นคนไม่มีวินัย มีอุปกรณ์ก็ออกกำลังกายทุกอย่าง มีห้องฟิตเนส คิดว่าพอมีลูกแล้วเปลี่ยนไปหมด เอาตัวเองช่างมันเถอะ เมื่อก่อนออกกำลังกาย หุ่นดีมาตลอด ลูก 3 คน เหนื่อยแต่แฮปปี้ เวลาออกไปข้างนอกถ้าเสียงดังต้องขออภัยด้วยนะคะ

แต่งงานกัน 10 ปี เป็นแฟน 10 ปี รวมเป็น 20 ปีแล้ว
มิค : ก็มีทะเลาะ แต่ไม่ใช่ทะเลาะกันเรื่องใหญ่
เบนซ์ : เปลี่ยนเยอะเลยตอนมีลูก อยากให้มันเป็นครอบครัว เป็นแบบนี้ดีกว่า หวานตลอดก็ไม่ใช่ พอเรามีลูกสนใจแต่ลูก มองไม่เห็นนาง ไม่ถามหิวไหม เหนื่อยไหม เพิ่งกลับมาทำรายการ แต่ก็น้อยมาก ละครมันนานอยู่ก็รอแป๊บนึง ที่ระหว่างที่เรายังไม่ได้ทำงาน เราอยู่กับลูกเยอะ และเราก็ไม่ได้สนใจเขาเลย อันนี้เป็นปัญหา เบนซ์เชื่อว่าหลายบ้านเป็น รักเราไม่เหมือนเดิม เหมือนเราแบ่งความรักให้ลูกหมดเลย

เขาก็รู้สึกน้อยใจ ตานี่ก็เป็นคนขี้น้อยใจ ถ้าไม่มีคนสนใจ ไม่มีคนถาม นางก็จะรู้สึกชีวิตนี้ไม่มีค่า ไม่ควรจะตรงนี้แล้ว

จริงเหรอ?
มิค : จริง มันไม่ใช่แค่ลูก ถ้าแค่ลูกเรายังโอเค แต่สิ่งที่มีปัญหากับคู่เราตอนนั้น คือ ทุกอย่างของเขาคือบ้านเขาก่อน แล้วค่อยลูกเรา แล้วเราเป็นอันดับสามเสมอ ทั้ง ๆ ที่เราไปทำงานให้เขามีความสุข แต่กลายเป็นว่าทำไมเขาถึงดูแลแต่บ้านเขา แค่ถามเราสักคำ กินข้าวยัง 8 ปีไม่เคย ตอนแรกก็ยอมไปเรื่อย ๆ ยอมไปยอมมา น่าจะถึงจุดมันน่าเริ่มมานั่งคุยกัน มันไม่เชิงระเบิด โชคดีมากวันนั้นต่างคนต่างนั่งฟัง

คือมิคก็พูดในมุมของมิคว่า หนูน่าจะรู้จักมิคดีที่สุด แค่ถามมิคว่าหิวไหม เหนื่อยไหม กินอะไรหรือเปล่าก็หายแล้ว แต่หนูต่อต้านที่จะทำ แต่หนูคิดว่าพี่้ต้องเข้าใจหนูสิ พอเราพูดเสร็จ เขาก็ถามว่าแล้วพี่รู้ไหมว่าหนูเหนื่อย พอเรานั่งฟังจริง ๆ เออเวลาที่พาเบนซ์ไปหาหมอ แล้วเราอยู่กับลูกมันเหนื่อย คนที่ออกไปทำงานอะไม่เหนื่อย แต่คนที่อยู่บ้านกับลูกเหนื่อยกว่า เหนื่อยกว่าเยอะจริง ๆ

เรามีปัญหาคุยกันได้ เรามีเป้าหมายเดียวกันคือให้ลูกเติบโตมาเป็นคนที่ดีของสังคมในอนาคต แต่เส้นทางมันคนละเส้น เราต้องจับมือกันไป

อีกคนไหม?
มิค : โอ๊ย อยากมีลูกเยอะ ไข่ก็ยังเหลือด้วย แต่ค่าเล่าเรียนมา

เบนซ์ : จริงก็ชอบมีลูกนะ แต่เรื่องมีลูกเป็นปัญหาชีวิตของเบนซ์กับพี่มิค คนบอกบ้านนี้ดูรักกันดี ขยันทำการบ้านมีลูกตั้ง 3 คน แต่เรื่องนี้เป็นปัญหาชีวิตเรื่องใหญ่มาก ๆ

มิค : ที่ผมบอกว่า 8 ปี เขาไม่สนใจผม นี่คือสิ่งหนึ่งที่ไม่สนใจด้วยครับ
เบนซ์ : เอ้าพูดตรง ๆ จากเราเคยสวย เราเคยมีเอว ไม่มีเซลลูไลท์ มาตอนนี้หุ่นเราเปลี่ยนไป ก็ไม่อยากให้สามีมาจับ ไม่ต้องมาจับได้ไหม คนอื่นไม่คิดแต่เราคิด ความมั่นใจในตัวเราหายไป หนูก็รู้สึกแบบไม่ได้ไม่รักนะ เคยมีช่วงหนึ่งที่เราเดินเฉียดเขา ก็ไม่อยากให้เขามาเฉียด ไม่ได้รังเกียจเขานะ แต่อาจจะเป็นเพราะเราไม่มั่นใจในตัวเองมากกว่า จับแล้วมันนิ่มไปหมด เราไม่สบายใจ ไม่อยากให้จำภาพที่ไม่สวย

อย่างลูกคนแรก ครั้งเดียวติด คนที่สองครั้งเดียวติด ระหว่างนั้นไม่มีอะไรกันเลย เหมือนเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราไม่สนใจ แต่เขารู้สึกมาก มันเป็นธรรมชาติคน คุยกันเขาไม่โอเค เลยบอกเขาไปตรง ๆ ว่า หนูก็ไม่โอเค คนอื่นเป็นหรือเปล่าไม่รู้ แต่เบนซ์เป็นเยอะ ด้วยไม่ชอบให้มาจับ เพราะเราไม่มั่นใจ พูดจริง ๆ

เมียยอมกลับมาสวยรู้สึกยังไง?
มิค : ดีใจไง เพราะเขาไปนั่งกดดันตัวเองว่าเขาไม่สวย เขาอ้วน ทั้ง ๆ ที่เราบอกว่าไม่เป็นไร เพราะเราชอบกอดคนมีเนื้อมีหนัง แต่ช่วงที่เขาห่างเหินเราไป เราเหงามาก ถึงขั้นที่มิคเคยพูดกับเบนซ์ ว่า มิคไม่เคยคิดอยากออกนอกบ้านไปหาความสุขนะ สิ่งที่หนูกำลังทำตอนนี้ เริ่มทำให้มิคเริ่มคิดที่จะออก

รู้สึกยังไง?
เบนซ์ : เป็นการพูดที่สั้นมาก พี่มิคพูดจบ หนูไม่พูดอะไรเลย ไม่คิดว่าจะออกมาจากปากพี่มิค คิดว่านี่มันปัญหาใหญ่ในชีวิตเราเลยนะ ถ้าเกิดจริง เขาทำจริงจะเป็นยังไง รับฟังนะ เลยบอกหนูขอคิดก่อน หนูจะคุยกับพี่ตอนหนูพร้อมโอเคไหม

คือคิดว่าถ้าพูดอะไรที่ไม่สมควรพูดไป คนนี้ไปแน่นอน เพราะมันถึงที่สุดของเขาแล้ว เพราะคนนี้จะพูดอะไรด้วย ต้องเรียบเรียงคำยิ่งกว่าคุณครูอีก พูดอะไรออกไปตรง ๆ ไม่ได้ เขาอ่อนไหวมากเรื่องคำพูด ต้องหาวิธีพูดที่ดีที่สุด บอกเหตุผลเราจะพยายาม เราขอโทษนะ ต้องคุยกัน ฟังเขาแล้วก็สงสารนะ

เป็นอีก 1 เหตุผลที่ลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง?
เบนซ์ : จริง อันนี้สำคัญมากนะพี่ ตั้งแต่ผอมก็มั่นใจขึ้นจริง ๆ
มิค : แฮปปี้มาก วันนี้ลูบตัวจับตัวจับเนื้อต้องตัวได้แล้ว แค่คิดว่าเสียดายตั้ง 8 ปี ทำไมไม่คิดได้ตั้งแต่ตอนนั้น