ฮาย ธันวา สมาชิกดูโอ้ของเพลงฮิต ทรงอย่างแบด พูดครั้งแรก! หลังถูกขุดเรื่องอดีต โยงเลิกรักครั้งเก่า เพราะ เบียร์ เดอะวอยซ์
งานนี้ก็แอบงานเข้าไปเบา ๆ หรือไม่ เมื่อ ฮาย เปเปอร์เพลนส์ หรือ ฮาย ธันวา สมาชิกดูโอ้ของเพลงฮิต ทรงอย่างแบด ถูกชาวเน็ตขุดอดีตไปด้วย หลังจากที่ เบียร์ เดอะวอยซ์ หรือ เบียร์ ภัสรนันท์ เจอดราม่าข่าวฉาวตั้งแต่ช่วงสิ้นปีที่แล้ว ยาวมาจนถึงต้นปี ซึ่งทาง ฮาย ถูกคนออกมาขุดถึงเรื่องความสัมพันธ์กับ เบียร์ เดอะวอยซ์ ในช่วงที่ทั้งสองคนเคยคบกัน
- เปิดความรู้สึก เบียร์ เดอะวอยซ์ หลังจบดราม่า ยัน! ไม่ได้รู้สึกดีกับสิ่งที่พลาดไปแล้ว
- อุ๊ย! ‘เมย์ ปทิดา’ เคลื่อนไหวแล้ว โพสต์นี้ลั่นมาก ชาวเน็ตแซวรู้ยังใครน่ากลัวสุด?
- เปิดเหตุผล ทำไม? ‘นนกุล’ ได้เป็นอนุกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ ด้านภาพยนตร์
ฮาย ธันวา พูดครั้งแรก! หลังถูกขุดเรื่องอดีต โยงเลิกรักครั้งเก่า เพราะ เบียร์ เดอะวอยซ์
ล่าสุด (6 ม.ค.) หนุ่มฮาย ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรก ที่งาน PAPER PLANES FLASH MOB ณ ลานพาร์คพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน ในวาระฉลองครบรอบ 1 ปี ทรงอย่างแบด โดยเจ้าตัวได้พูดถึงเรื่องราวดราม่าดังกล่าวที่ถูกขุดขึ้นมา
“จริง ๆ เรื่องราวมันก็สักประมาณ 6-7 ปีแล้ว มันนานมากจนผมจำดีเทลได้บางส่วน เอ่อ ณ วันนี้ จริงๆ ผมกับแฟนเก่าคนนั้น เราก็ยังคุยกันอยู่ ยังคุยกันในฐานะเพื่อน ยังโทรคุยกันอะไรแบบนี้ ก็เลย เอ่อคือพอมันเกิดข่าวแบบนี้ขึ้นมา ก็แอบเอ๊ะ นิดหนึ่งครับ ว่าทำไมเกิดข่าวอะไรแบบนั้น แต่ว่าจริง ๆ แล้วเราคุยกันตลอด
สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันก็มีส่วนที่มันถูก และมีส่วนที่สื่อสารผิดก็เยอะ อีกอย่างด้วยความที่ปกติแล้วผมไม่ใช่คนโซเชียลฯ การที่ผมจะออกมาพูดอะไรเรื่องความสัมพันธ์ มันเลยไม่ค่อยใช่ตัวผม เพราะผมรู้สึกว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น เราได้คุยกันภายในแล้ว เพราะเรารู้สึกว่าการออกมาพูดแบบนี้เหมือนกันประกาศสงครามกันบนโซเชียลแล้วมันไม่ตบ ตั้งแต่ 6-7 ปีที่แล้ว แล้วแหละครับ และอยากจะบอกด้วยว่า ข่าวบางส่วนมันก็มีการสื่อสารผิดพลาดไปเยอะเช่นกัน เพียงแต่ผมไม่อยากแก้ต่าง มันเหมือนการเปิดประเด็น ผมไม่ค่อยซีเรียส ที่ผ่านมาแม้ว่าผมจะคบกับใคร เวลามีข่าวผมไม่เคยตอบโต้เลย ผมปล่อยให้มันเป็นไป ผมรู้สึกว่าคนที่เสพข่าวจริง ๆ เขาจะไปติดตามดูว่าอะไรมันเกิดขึ้นตอนไหน ว่าง่าย ๆ คือผมไม่ได้ซีเรียส”
เสียใจไหมที่คนตัดสินไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยได้ฟังเราพูด?
ผมรู้สึกเหมือนเมื่อก่อนเลยครับ คือตอนที่ผมคบกับแฟนอีกคนหนึ่ง แล้วผมก็โดนบูลลี่เรื่องหน้าตา ตอนนั้นผมก็เลิกเล่นโซเชียลฯ ไปเลยนะ คือเหมือนเขาไม่แม้แต่จะรอฟังความจากอีกฝ่ายเลย อารมณ์แบบดูรายการ ดูการให้สัมภาษณ์ แล้วก็เข้ามาด่าเลย ตัดสินเลย แต่สำหรับผมนะครับ ผมเป็นสไตล์นี้จริง ๆ คือจะเลิกกับใคร ดังไม่ดัง ผมไม่เคยออกมาพูด เพราะว่าผมมีเป้าของผมก็คือ ผมแค่ใช้ชีวิต และผมก็เชื่อด้วยว่าคนที่เสพข่าวจริงๆ เขาจะไม่ตัดสินเร็ว แต่เขาจะดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งไทม์ไลน์ต่าง ๆ มันมีอยู่ในโซเชียลฯ อยู่แล้ว
มีอะไรที่เราอยากอธิบายไหม?
แว็บหนึ่งก็มีครับ แต่เท่าที่ผมวิเคราะห์นะครับ คนอ่านข่าวเขามีแค่ 2 ประเภท คืออ่านเพื่อรับข่าวจริง ๆ กับ คนที่ไม่สนใครชนะฉันอยู่ข้างนั้น ซึ่งการที่ผมออกมาพูดมันก็เหมือนเป็นการทำให้คอนเทนต์ตรงนี้มันคงอยู่ และให้คนได้สนุกกันไปเรื่อย ๆ การที่เราออกมาพูดความจริงไม่ค่อยมีประโยชน์ หรือการไปแก้ต่างในข้อไหนก็ตาม เรื่องความรักทุกคนรู้อยู่แล้วว่ามันมีแง่มุมที่หลากหลาย ผมคิดแบบนั้นนะ และอย่างที่บอกตั้งแต่ต้นเลยครับ เรายังคุยกันอยู่ ล่าสุดผมก็เพิ่งจะไปเปลี่ยนโปรโมชั่นเบอร์โทรศัพท์ให้เขาอยู่เลย ผมก็แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถามว่าอยากเปิดไปศึกไหม ก็ไม่
งงไหมว่าทำไมอยู่ดี ๆ ก็เกิดประเด็นนี้ขึ้น?
ผมว่าน่าจะเป็นข่าวมาจากผลพวงอีกคนหนึ่ง คือคนอคติกับน้องเขาแล้ว การที่ผมจะออกไปแก้ต่างคือคนจะไม่ค่อยเชื่อ เพราะว่าน้องคนนั้นทำแบบนั้น ก็ต้องทำแบบนี้แหละ แล้วการที่ผมออกไปตอนนี้ไม่มีประโยชน์ เรื่องมันผ่านมาแล้ว 6-7 ปี แล้ว มันนานมาก แล้วผมได้คุยกันหมดแล้ว เป็นเพื่อนกันแล้ว เป็นเพื่อนประเภทที่โทรกันได้ปกติ แล้วผมจะมาสร้างความอีกเพื่ออะไร มันไม่ใช่เรื่องของผมกับน้องเขาแล้ว มันเป็นเรื่องของคนอื่นที่เขาอยากจะรู้ความจริงมากกว่า และจริง ๆ มันเป็นเรื่องส่วนตัวนะ ผมก็เลยอยากเก็บไว้ให้เป็นเรื่องส่วนตัวบ้าง ผมไม่ได้เล่นโซเชียลฯ
เราเป็นดาราก็ต้องอยู่กับโซเชียล?
ผมบอกก่อนนะ ผมไม่เคยปฏิบัติว่าผมเป็นดารา และความสัมพันธ์ที่ผ่านมาอย่าคิดว่าการที่ผมเลิกกันกับใคร เพราะคิดว่าคนนั้นคือดารา แต่ผมปฏิบัติกับทุกคนเท่ากัน ผมพูดกับทุกคนเสมอ เวลามีคนพูดว่าอยากจีบคนนั้นคนนี้ ก็จีบเลย คนทุกคนเท่ากัน เพราะฉะนั้นที่ผมจะบอกก็คือ ทุกความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นผมไม่เคยเลือกใครเพราะใครดังกว่า หรือว่าฮอตกว่า และตัวเขาเองก็น่าจะรู้ว่าความรักครั้งนั้นของผม ผมตั้งใจมาก ถ้านึกย้อนกลับไปผมตั้งใจมาก ๆ จำได้ว่าเราทำเต็มที่กันแล้วทั้งคู่ ดังนั้นเมื่อถึงวันที่ต้องเลิกกัน มันไม่มีเหตุผลใดนอกจากตัวเราทั้งคู่
แสดงว่ามีภูมิคุ้มกันกับโซเชียลแล้ว?
ผมเลือกที่จะไม่สนใจมากกว่า เอ่อ ผมเปลี่ยนใครไม่ได้จริง ๆ แล้วยิ่งจำนวนเยอะผมยิ่งเปลี่ยนไม่ได้เลยครับ
ได้เข้าไปอ่านคอมเมนต์ไหม?
เข้าไปดูบ้างเหมือนกันครับว่าคนเขาตีความยังไง แต่ว่าสุดท้ายผมก็ไม่ได้ทำอะไร เพราะผมขอแค่เขาไม่มาวุ่นวายกับครอบครัวผม ผมก็โอเคแล้ว และผมคิดว่าสิ่งนี้มันควรเป็นมาตรฐานในเรื่องของความเป็นส่วนตัว เอาแค่ศิลปินละกันนะครับ ผมคิดว่าศิลปินไม่จำเป็นต้องตีแผ่เรื่องราวส่วนตัวขนาดนั้น ควรแก้ปัญหาให้ตรงเหตุถ้าเราทะเลาะกับใคร มีเรื่องกับใคร เราควรแก้กับเขา ไม่ใช่แค่มาขอโทษหน้ากล้อง ควรขอโทษต่อหน้าเขา และผมทำสิ่งนั้นแล้ว ปรับความเข้าใจ ได้คุยกันแล้ว มันจบแล้ว ให้สังเกตผมไม่เคยให้สัมภาษณ์เรื่องใครเลยแม้ผมจะโดนมาขนาดไหนก็ตาม
ขอบคุณ : วันบันเทิง oneบันเทิง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ไฮโซดัง หอบช่อดอกไม้ 4,000 ดอก เซอร์ไพรส์ นางเอกสาว ฉลองครบรอบแต่งงาน 4 ปี
- ‘แม่ชม’ ควงลูก 3 ออกงานฟูลทีมครั้งแรก! อุบตอบค่าตัวครึ่งล้าน ‘น้องแอบิเกล’ สดใสมาก
- แฟนโอ๋ ภัคจีรา เผยเอกสารจดทะเบียน บ. SAP ชื่อย่อมาจากคำนี้? คือคนคลั่งรักสุด ๆ
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg