‘พอล ภัทรพล’ อัดคลิป ชี้ ‘พิธา’ ไม่ได้ขาดคุณสมบัติ แต่เป็น ‘กกต.’ ต่างหากที่ขาด

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 13 กรกฎาคม 2566

‘พอล ภัทรพล’ อัดคลิป ชี้ ‘พิธา’ ไม่ได้ขาดคุณสมบัติ แต่เป็น ‘กกต.’ ต่างหาก! พร้อมร่ายยาวเป็นข้อ ๆ

จากกรณีที่มีการรายงานข่าวว่า กกต.มีมติให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ประกอบมาตรา 101 (6) หรือไม่ ปมหุ้นสื่อไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น รวมทั้งมีคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ไว้จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

‘พอล ภัทรพล’ อัดคลิป ชี้ ‘พิธา’ ไม่ได้ขาดคุณสมบัติ แต่เป็น ‘กกต.’ ต่างหากที่ขาด

ล่าสุด (12 ก.ค.) พอล-ภัทรพล ศิลปาจารย์ อดีตนักแสดงที่ตอนนี้ผันตัวไปทำธุรกิจ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงประเด็นดังกล่าว ผ่านทางทวีตเตอร์ส่วนตัว @PaulPattarapon พร้อมกับระบุว่าข้อความเอาไว้ว่า “คนที่ขาดคุณสมบัติไม่ใช่ คุณพิธา แต่คือ กกต!!! #มาตรา151 #มาตรา157 #กกตมีไว้ทำไม #นายกพิธา” และยังได้โพสต์คลิปที่กล่าวไว้ว่า

“ไม่น่าเชื่อว่า กกต.จะทำ New LOW ได้มากกว่านี้อีก จะเล่นงานคุณพิธาด้วยมาตรา 151 ก่อนอื่นต้องบอกว่า คลิปนี้ไม่ได้ทำเพื่อคุณพิธา ทำเพื่อความถูกต้อง ถ้าเพื่อไทยชนะ ผมก็ยังทำคลิปนี้อยู่ดี ต้องบอกว่าที่ กกต. ทำน่าเกลียดมาก คุณคือหน่วยงานอิสระ แต่เอาตรง ๆ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าคุณไม่ใช่หน่วยงานอิสระครับ แต่อย่างน้อย แต่อย่างน้อยก็ช่วยทำให้มันไม่น่าเกลียดขนาดนี้ได้ไหม เรื่องขาดคุณสมบัติไร้สาระมาก ทำไม?

1. ถ้าคุณรู้อยู่แล้วว่า คุณพิธา ขาดคุณสมบัติ คุณปล่อยให้เขาเป็น ส.ส. ได้อย่างไรมา 4 ปีกว่า ทำไมเพิ่งจะมาขาดคุณสมบัติเอาตอนนี้?

2. คุณรู้เรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมารู้เมื่อวาน เรื่องหุ้นไอทีวี ดังมา 2 เดือนแล้วนะครับ คำถาม คือ ช่วงที่ 2 เดือนที่ผ่านมาคุณไปทำอะไรอยู่

3. จนป่านนี้ กกต. ยังไม่เคยขอคลิปวิดีโอเต็มจากไอทีวีเลย ส่วนไอทีวีก็ไม่เคยเอาคลิปเต็ม ออกมาเปิดเผย เพราะหากเอาคลิปเต็มมาเปิดก็จะรู้ว่าใครโกหกไม่โกหก ใครผิด ใครถูก

4. กกต. ทำงานกลับหัวกลับหางหรือเปล่าครับ การทำแบบนี้คือวัวหายล้อมคอกมาก ๆ จริง ๆ กกต. ควรต้องตรวจสอบคุณสมบัติก่อนหรือไม่ ว่าคนไหนสมัคร ส.ส.ได้หรือไม่ได้ คนไหนขาดคุณสมบัติ บอกตั้งแต่แรกเลย พรรคนั้นจะได้วางแผนใหม่

และอย่าอ้างว่าผู้สมัครเยอะดูไม่ทัน คุณไม่จำเป็นต้องดูหมด คุณดูแค่แคนดิเดตของแต่ละพรรคก็พอ หน้าที่ของ กกต. คือตรวจสอบก่อนเลยว่าใครมีคุณสมบัตร ใครผ่านไม่ผ่าน ไม่ใช่ปล่อยให้เขาไปหาเสียง ไปดีเบต ถ้ามีการสกรีนก่อน จะไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น

ตอนนี้ประเทศเสียหายเยอะมาก เสียหายมหาศาล เสียเวลา เสียแรง นี่ท่านดูงานต่างประเทศมาแล้วจริง ๆ ใช่ไหม และใช้เงินถึง 6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชน คิดไม่ได้จริง ๆ เหรอครับว่าควรสกรีนผู้สมัคร ส.ส.ก่อน

และหากคิดดุ คุณพิธาไม่ใช่ไม่รู้ เพราะอย่าลืมว่าตอนที่คุณธนาธร โดนเรื่องนี้ จนถึงขั้นถูกยุบพรรค คุณพิธาก็อยู่ในเหตุการณ์นั้น ดังนั้น ถ้าเห็นตัวอย่างแบบนี้ ถึงขั้นโดนยุบพรรคเลย เป็นคุณยังจะเก็บหุ้นสื่อไว้เหรอ ขนาดพวกเรายังคิดได้เลย

ซึ่งหมายความว่า เรื่องที่คุณพิธาถือหุ้นสื่อให้ฐานะผู้จัดการมรดก แปลว่าเหตุผลเดียวที่เก็บไว้คือ คุณพิธารู้ว่าไม่ผิด เพราะไอทีวีหยุดเป็นสื่อตั้งแต่ปี 2550 ยังไม่รวมว่า คุณพิธาถือในนามผู้จัดการมรดก ผู้จัดการมรดก ไม่ใช่เจ้าของมรดก และเมื่อถึงศาลรัฐธรรมนูญจริง มันก็มีแนวทางพิพากษาไว้แล้ว คือ ฝ่ายรัฐบาลเก่าในขณะนี้ที่รอดมาหมดแล้ว คุณพิธาไม่ได้ขาดคุณสมบัติครับ คุณต่างหากที่ขาด (กกต.) และระวังมาตรา 157 นะครับ ”

ขอบคุณที่มา : @PaulPattarapon

คนที่ขาดคุณสมบัติไม่ใช่คุณพิธา แต่คือ กกต!!!#มาตรา151 #มาตรา157 #กกตมีไว้ทำไม #นายกพิธา pic.twitter.com/Jq0E973GXy
— Paul Pattarapon พอล ภัทรพล (@PaulPattarapon) July 12, 2023