Entertainment

บิวกิ้น พุฒิพงศ์ พูดถึงรักครั้งแรก พร้อมเผยความสัมพันธ์แบบ พีพี มีแค่คนเดียว

บิวกิ้น พุฒิพงศ์ พูดถึงรักครั้งแรก ตอนอายุประมาณ 15 ปี พร้อมเผยความสัมพันธ์แบบ พีพี มีแค่คนเดียว

เป็นนักแสดงที่มีความสามารถหลากหลายด้านจริง ๆ สำหรับ บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ไม่ว่าจะเป็นการแสดง เขาก็สามารถทำได้ดีอย่างไร้ที่ติ อีกทั้งด้านการร้องเพลง จะปล่อยเพลงอะไร แนวไหนออกมาก็ฮิตติดชาร์จ มีแฟน ๆ ให้การสนับสนุนทั้งในไทย และต่างประเทศแบบล้นหลามมาตลอด ปังไม่แพ้ดาราคนไหนเลย

ปกสัมบิวกิ้นวู้ดดี้

บิวกิ้น พุฒิพงศ์ พูดถึงรักครั้งแรก เผยความสัมพันธ์แบบ พีพี มีแค่คนเดียว

ล่าสุด บิวกิ้น พุฒิพงศ์ ได้มาเปิดเล่าถึงรักครั้งแรกกับมิติความรักที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน ยอมรับเป็นคนคลั่งรัก ตอบชัดความสัมพันธ์แบบ พีพี มีแค่คนเดียว ในรายการ WOODY FM

เรื่องไหนที่คิดว่าอยากจะคุย แต่ยังไม่เคยได้มีโอกาสคุย?

บิวกิ้น: ส่วนใหญ่เวลาผมอยู่คนเดียว ผมจะเป็นคนที่หยุดคิดไม่ได้ ยิ่งมีเวลาเยอะเราจะยิ่งคิดไปไกลขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลาที่เราอยู่คนเดียวก็จะเริ่มคิดว่าพรุ่งนี้เราจะต้องไปทำอะไร จะต้องแพลนยังไง ถ้ามีเวลาว่างวันหนึ่งก็จะเริ่มแพลนไปถึง 3-5 ปี มองเป็นไอเดียว่าเราอยากจะทำอะไรบ้าง ช่วงนี้ผมมีแพลนจะไปเรียนต่ออะไรแบบนี้ครับ ก็นั่งคิดว่าช่วงที่ไปเรียนต่อจะจัดการเรื่องทำงานของเราตรงนี้ยังไง

จะไปเรียนที่ไหนครับ?

บิวกิ้น: เรียนปริญญาโทที่อังกฤษครับ ผมไม่ได้ซีเรียสเรื่องการจะไปเรียน แต่ผมอยากไปใช้ชีวิตมากกว่า

นโยบาย CEO ของ Billkin Entertainment อนุญาตให้ศิลปินพูดถึงเรื่องความรักมากน้อยขนาดไหน?

บิวกิ้น: (หัวเราะ) ผมไม่บังคับดีกว่า แต่ละคนเขาก็มีสิทธิ์ที่อยากจะเป็น อยากจะทำหรืออยากจะพูดหรือไม่อยากจะพูด ผมรู้สึกว่าถ้าเขาอยากจะพูด เราไม่ได้มีสิทธิ์จะไปห้ามครับ

อยากรู้ว่ามิติความรักของบิวกิ้นเป็นยังไง?

บิวกิ้น: ความรักสำหรับผมรู้สึกว่ามันคือความสุข การที่เราจะรักใครสักคน เราต้องมีความสุขที่จะได้ทำ แล้วมันก็ส่งความสุขกลับมาให้เรา ผมไม่ค่อยเชื่อในเรื่องของรักที่มันทุกข์ ผมรู้สึกว่าถ้ามันเป็นแบบนั้น เราอย่ามีดีกว่า ความรักทุกรูปแบบ ครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก เราต้องหาจุดที่สุดท้ายแล้ว เราต่างมีความสุข แล้วก็สบายใจในการที่จะอยู่กับความสัมพันธ์นั้น ๆ

บิวกิ้น

เวลาที่เป็นทุกข์มันเป็นยังไง?

บิวกิ้น: ผมว่าเหมือนกับการที่มันไม่เข้ากัน ทุก ๆ คนจะมีวิธีการ มีแนวคิด มีมุมมองของตัวเองที่มันไม่เหมือนกัน ความรักของผม มันคือการซัพพอร์ตทุก ๆ คน โดยไม่ได้เอาทัศนคติของเราไปวางอยู่บนตัวเขา ให้เขาทำในแบบของเขา แล้วเขาจะได้ภูมิใจในสิ่งที่เขาเป็น สิ่งที่เขาทำจริง ๆ

รักครั้งแรกตอนอายุเท่าไหร่?

บิวกิ้น: ม.3 ครับ อายุประมาณ 15 ครับ ตอนเราเด็ก ๆ ก็จะรู้สึกว่าความรักคือการครอบครอง เธอเป็นของฉัน ฉันเป็นของเธอ เราต่างครอบครองกันและกัน แล้วก็จะยึดติดกับค่านิยมบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าอันนี้ดีอันนี้ไม่ดี

ตอนเด็ก ๆ หึงไหมครับ?

บิวกิ้น: สุด ๆ ครับ ช่วงนั้นมันอาจจะเป็น Puppy Love ด้วย เป็นครั้งแรกเรื่องของการคุย ไปไหน มีเพื่อนผู้ชาย เราก็จะบล็อกทุกทาง ควบคุมสุด ๆ แต่เขาก็ควบคุมเราเหมือนกันนะ (หัวเราะ) สุดท้ายแล้วมันก็จะเดินไปถึงจุดที่บีบมาก ๆ สุดท้ายมันก็จะแตกหัก ต้องแยกออกจากกัน

แต่ในวันนี้รูปแบบนั้นมันไม่มีแล้ว?

บิวกิ้น: ผมว่ามันเป็นเส้นของการให้เกียรติมากว่า ถ้ามันเป็นคนที่ใช่ และเป็นคนที่พอดีกับเรา สุดท้ายแล้ว เราต่างคนต่างจะตีกรอบของตัวเองเพื่ออีกคนหนึ่ง โดยที่ใช้เซนส์ หรือวิจารณญาณของตัวเราเองอยู่แล้ว มันผ่านการให้เกียรติ หรือการระลึกถึงคนอีกคนหนึ่งอยู่

คุณคลั่งรักไหม หรือเป็น Level ไหน?

บิวกิ้น: ก็น่าจะคลั่งอยู่นะครับ (ยิ้ม) เรารู้สึกว่าความรักมันผลักดันความใกล้ชิด หมายถึงว่าไม่ใช่แค่คนที่อยู่ในความสัมพันธ์นะ กับที่บ้านของผม ก่อนนอนกลับไปหาที่บ้านก็ต้องไปกอด ปะป๊า หม่าม้า หอมแก้ม กู้ดไนท์กันตลอด โดยที่ทุกคนก็จะทำมันด้วยความเอนจอยเป็นปกติ

ดังมาจาก “ซีรี่ส์แปลรักฉันด้วยใจเธอ” ซึ่งมิตินั้นก็จะเป็น LGBTQ เฉดสีของความรักมันไม่ได้จำกัดเพศ บิวกิ้นมองเรื่องนี้ยังไงบ้าง?

บิวกิ้น: ผมรู้สึกว่าทุกวันนี้คนเรา 100 คน ก็ไม่เหมือนกันสักคน ทั้งเรื่องของตัวตนความชอบสิ่งที่เราเป็น ทุกวันนี้มันไม่มีเส้นของคำว่าถูกผิด หรือว่าค่านิยมแล้ว มันอาจจะมีเส้นของการให้เกียรติผู้อื่น หรือว่าเส้นของกฎหมายต่าง ๆ ที่เราอาจจะต้องใช้อยู่ร่วมกัน

แต่หมายถึงเรื่องของเทสต์ความชอบ หรืออะไรต่าง ๆ ผมรู้สึกว่า ทุกวันนี้ฟรีดอมมาก ในการที่เราจะชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ทำอะไรไม่ทำอะไร แค่ระลึกไว้ว่า เราทำสิ่งนี้โดยที่ไม่ได้ไปล้ำเส้นของคนอื่นก็พอ หมายถึงว่า เราจะชอบอะไรทำอะไร เราจะเป็นอะไรก็ได้ ที่เราภูมิใจที่จะเป็นแล้วมีความสุขที่จะทำจริง ๆ

มันหมดเวลาที่จะมาบอกว่า อันนั้นถูก อันนี้ผิด ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราจะมาตีเส้นให้กับสังคมทำไม ปล่อยให้ทุก ๆ คนได้เป็นตัวเอง ได้ทำในสิ่งที่รัก

พีพี2

ความสัมพันธ์ระหว่างคุณและ พีพี ในตอนนี้เป็นแบบไหน ?

บิวกิ้น: ในความสัมพันธ์แบบพีพีสำหรับผม ผมมีพีพีคนเดียว คนที่เข้าใจเรา และผ่านการเดินทางที่มันพิเศษมากขนาดนี้ ผมรู้จักพีพีตั้งแต่ผมอายุ 16 เจอกันในที่เรียนพิเศษ แปลกมาก ผมกับพีพีสนิทกันเร็วมากในระยะเวลาเดือนเดียว เราสนิทกันเหมือนเป็นเพื่อนสนิท

เรามีโอกาสได้เข้านาดาว ได้เข้ามาเล่นซีรีส์ หรือช่วงที่เขาทำ Artist Development เราก็จะเป็นคนที่อยู่ในเจเนอเรชันเดียวกัน มีโอกาสได้ทำอะไรไปพร้อม ๆ กันตลอด มันเลยทำให้เหมือนกับว่า สำหรับผม ทั้งตัวเราในพาร์ทของคน ๆ หนึ่ง กับในพาร์ทของการทำงานตรงนี้ บวกกับตัวเรา ฐานะของคนมากกว่าเป็นแค่เพื่อน หมายถึงเขาเข้าใจสิ่งที่เราคิด เข้าใจมุมมองของเรา เหมือนเพื่อนคู่คิดของเรา

เขาสนิทกับที่บ้านผมมาก ๆ จนปะป๊าผมบอกว่า เขาเป็นเหมือนลูกอีกคนหนึ่ง ความสัมพันธ์แบบนี้ มีเขาคนเดียวที่ดูบังเอิญไปหมด อยู่ใกล้กันมากสนิทกันมาก เข้าใจเราไปหมด แล้วเราก็ร่วมเดินทางเติบโตมาตั้งแต่วันนั้น จนมาถึงวันนี้ ทำงานร่วมกัน มีอะไรเราก็ปรึกษากัน คิดถึงกัน คิดเผื่อกันตลอด

เวลาคู่กันแฟนคลับชอบมาก จิ้นมาก ๆ แต่ถ้าวันหนึ่ง คุณต้องมีแฟนขึ้นมา เคยคิดไหมว่าความรู้สึกของคนที่เขาจับคู่ให้ไปแล้วจะยังไง ?

บิวกิ้น: ในแฟนคลับแต่ละคน ผมว่าเขาก็จะมีความคาดหวังที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งแฟนคลับที่เขาชอบเรา ที่เขาชอบพีพี แล้วก็จะมีแฟนคลับที่ชอบ 2 คนอยู่ด้วยกันแยกกันไม่ได้ หรือชอบเรากับพีพีทั้งคู่ แต่เคารพเราในฐานะของการเป็นแต่ละคนของทั้งคู่ แยกกันก็ไม่เป็นไร ยังซัพพอร์ตทั้งคู่อยู่ มันมีหลายมิติมาก ๆ เลยครับ

ผมว่า เราทุกวันนี้ไม่ว่าจะทำอะไร ในทุกการเดินทางของเรา จะมีคนที่สมหวังและผิดหวังเสมอ เพราะความคาดหวังมันหลากหลายมาก เราเคยเป็นคนที่เสพฟีดแบคมาก ๆ รู้สึกว่าจะทำยังไงดีให้คนที่รักเรา ซัพพอร์ตเรา ไม่ผิดหวัง ไม่ชอบทำให้ใครเสียใจ หรือผิดหวัง

พอเดินทางไปถึงจุด ๆ หนึ่งที่เราเป็น วันนี้เราถอยออกมาก้าวหนึ่งแล้วมองภาพกว้าง รู้สึกว่าการเป็นบุคคลสาธารณะในวันนี้ เวลามีคนคาดหวัง ไม่ว่าเราจะทำอะไรจะมีคนที่ใช่เลย กับคนที่ผิดหวังจัง อยู่เสมอ

ผมเลยรู้สึกว่า เราถอยกลับมาดูตัวเราเองดีกว่า ความรู้สึกของเราเองจริง ๆ จะใช้ชีวิตอยู่กับการคาดหวังกับคนอื่นไปได้อีกเท่าไร รู้สึกว่า ในวันนี้เราก็จะทำความเข้าใจตัวเองให้มากขึ้น ชัดเจนกับตัวเองมากขึ้นว่า สุดท้ายแล้ว การที่เราจะเลือกทำอะไร เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เราเลือก และเป็นสิ่งที่เราเป็นจริง ๆ ลดความคาดหวังลง ทำทุกอย่างให้มันง่ายขึ้น ทำตามหัวใจมากขึ้นครับ

คอมเมนต์หรือว่าโพสต์แบบไหนที่มันเศร้าใจสำหรับคุณ ?

บิวกิ้น: ก็จะมีมาเรื่อย ๆ ตลอด บางคนจะเรียกว่า Anti-fan จะเห็นทุกความเคลื่อนไหวของเราเลย คอยปล่อยข่าวปลอม มองหาช่องโจมตีอยู่ตลอดเวลา ผมว่ามันบั่นทอนมากกว่า บางครั้งการที่เราเลือกทำอะไร แล้วทำให้คนกลุ่มหนึ่งผิดหวัง สุดท้ายผมรู้สึกว่าถ้าเราเคารพกัน ถ้าไม่ชอบ คุณโอเคก็จะเดินจากไป แต่ก็จะมีคนบางกลุ่มที่พอไม่ถูกใจเขาเลือกที่จะด่าเรา โจมตีเรา

ถึงบอกว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา 3-4 ปี ของผม สิ่งที่เจ็บปวดที่สุด คือการที่เราทำให้เขามีความคาดหวังต่อเรา แล้วเราไปทำให้เขาผิดหวัง สิ่งที่เสียใจที่สุด ไม่อยากให้เกิดขึ้นที่สุด คือการที่ทำให้คนอื่นเสียใจ ผมไม่ค่อยชอบความรู้สึกนี้เท่าไร

ร้องไห้ล่าสุดเมื่อไหร่ ?

บิวกิ้น: เดือนที่แล้ว ตอนนั้นไปทำงานในงานหนึ่งครับ เราตั้งใจมาก ๆ เป็นงานที่เราไม่เคยทำมาก่อน แล้วเป็นความฝันของเรา อยากจะทำให้ได้มาก ๆ พอเข้าไปทำแล้วเดินออกมาจากห้อง เรารู้สึกว่าเฟลมาก เพราะรู้สึกว่าทำไม่ได้ ไม่เข้าใจว่า ทำไมเราทำไม่ได้

กลับบ้านไปร้องไห้ เป็นเรื่องที่ติดอยู่ในหัวตลอดเวลา 2 อาทิตย์ ตั้งแต่ตื่นยันนอนจะคิดถึงแต่เรื่องนี้

แต่โชคดีมากที่เราได้มีโอกาสกลับไปทำอีกครั้งหนึ่ง พอทำออกมาก็ดีใจ ที่เราได้ทำอย่างเต็มที่ ผมไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วมันได้ไหมนะ แต่ถ้าถามใจเราในวันนั้น ที่ได้กลับไปทำอีกครั้งรู้สึกว่าไม่คาใจแล้ว

ขอบคุณ : bbillkin

บิวกิ้นDSC06553
บิวกิ้น432088
พีพี316867503 5677111822373263 395898340780849140 n
อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo