กรมอนามัย เผยเด็กไทยติดจอไม่ขยับ 6 ชม.ต่อวัน เร่งดันชมรม ChOPA & ChiPA Game กระตุ้นทำกิจกรรมทางกาย ลดโรค เสริมศักยภาพ
41% ของเด็กไทยใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน ในขณะที่การทำกิจกรรมทางกายต่ำมาก เพียง 23.2 % กรมอนามัย จึงเตรียมขับเคลื่อนชมรม “CHOPA & CHIPA GAME ประเทศไทย” ให้เป็นศูนย์กลางประสานความร่วมมือ และส่งเสริมกิจกรรมทางกายของเด็กไทย รวมถึงวิจัย และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรการกุศล ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมขยายความร่วมมือจัดตั้งชมรมฯ ระดับภาค ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และโรงเรียน
นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวยภายหลังประชุมเชิงปฏิบัติการ “พัฒนาศักยภาพและเตรียมการขับเคลื่อนชมรม CHOPA & CHIPA GAME ประเทศไทย” ว่า ปัจจุบันพบว่า อัตราโรคอ้วนในเด็ก ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
สำหรับประเทศไทย จากรายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 5 ปี 2557 โดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข) พบว่า เด็กไทยอายุ 12-14 ปี สัดส่วน 1 ใน 5 เป็นโรคอ้วน ขณะที่เขตกรุงเทพมหานคร พบ 1 ใน 4 คน
และจากการสำรวจการมีกิจกรรมทางกายของประชากรไทย ระหว่างปี 2557-2558 โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าเด็กไทยใช้เวลามากถึง 13 ชั่วโมง 35 นาทีต่อวันกับการมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง ทั้งนี้ไม่รวมการนอนหลับ และประมาณ 41 % ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอทีวีเฉลี่ย 6 ชั่วโมงต่อวัน ในขณะที่การทำกิจกรรมทางกายเพียงพอต่ำมากเพียง 23.2 %
หากไม่ได้รับการป้องกัน และบำบัดอย่างถูกวิธี แนวโน้มเด็กอ้วนจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมากระบวนการแก้ปัญหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก และมีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น โปรแกรมออกกำลังกายไม่จูงใจให้เด็กอ้วนเข้าร่วม ถูกแยกออกกำลังกายจากเพื่อนๆ จึงทำให้ขาดแรงจูงใจ รวมถึงสถานที่ออกกำลังกายไม่เพียงพอ หลักสูตรพลศึกษา เหลือเพียง 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และมุ่งสู่การแข่งขันกีฬามากกว่าเพื่อสุขภาพ ขาดแคลนครูพลศึกษา บุคลากรที่เกี่ยวข้องทั้งในโรงเรียน และสถานบริการสาธารณสุข ขาดความรู้ ความเข้าใจ และทักษะ
กรมอนามัยจึงพัฒนา “ชุดนวัตกรรมกิจกรรมทางกายสำหรับเด็กอ้วน และเด็กทั่วไป” (Childhood Obesity Physical Activities & Child Physical Activities : ChOPA & ChiPA Game Innovations) เพื่อเป็นเครื่องมือพัฒนาแรงจูงใจให้เด็กอ้วนเข้าร่วม และทำกิจกรรมทางกายเพียงพออย่างต่อเนื่อง
นพ.บัญชา กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา “โครงการ ChOPA & ChiPA Game ลดเรียนเพิ่มรู้ สู่เด็กไทยสูง สมส่วน แข็งแรง IQ EQ ดี” ได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายร่วมขับเคลื่อน สนับสนุน และเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงพฤติกรรมการทำกิจกรรมทางกายที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี และสนุกสนาน จนสามารถลดเด็กอ้วนจาก 17.8 % เป็น 12.7 % ในโรงเรียน 28 แห่ง เพิ่มเด็กสมส่วนจาก 71.3 % เป็น 80.5 % ภายในเวลา 2 ปี จากปี 2559-2560
ส่งผลให้เด็กอ้วนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงโรค ไม่ติดต่อเรื้อรัง ลดการเป็นภาระของสังคม กลายเป็นสมาชิกของสังคมที่มีคุณค่า สามารถเป็นผู้นำการออกกำลังกาย เป็นผู้นำการดูแลสุขภาพตนเอง ดูแลเพื่อนและครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้งยังช่วยลดปัญหาเด็กติดไลน์ ติดเกม ติดโทรทัศน์ ติดโทรศัพท์ จดจ่ออยู่กับพฤติกรรมเนือยนิ่ง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ในปี 2562 กรมอนามัย จึงได้ขยายความร่วมมือจากภาครัฐสู่ภาคเอกชน และประชาชน โดยจัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการ “พัฒนาศักยภาพและเตรียมการขับเคลื่อนชมรม ChOPA & ChiPA Game ประเทศไทย” เพื่อร่วมจัดตั้ง “ชมรม ChOPA & ChiPA Game ประเทศไทย” ให้เป็นศูนย์กลางการประสานความร่วมมือดำเนินการรณรงค์ และส่งเสริมให้เด็กไทยเพิ่มกิจกรรมทางกายและลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง
รวมทั้งจัดกิจกรรมออกกำลังกาย กีฬา และนันทนาการ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์กรการกุศลทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนทำการศึกษาวิจัย เผยแพร่แลกเปลี่ยนความรู้ ข่าวสารเกี่ยวกับ การส่งเสริมกิจกรรมทางกายของชมรมฯ เป็นแหล่งบริการทางวิชาการ สร้างและพัฒนาแกนนำ ผู้นำส่งเสริมกิจกรรมทางกาย สร้างความสามัคคีและความเข้าใจอันดีระหว่างภาคีเครือข่ายส่งเสริมกิจกรรมทางกายประเทศไทย
ขณะเดียวกันก็ให้การสนับสนุน และช่วยเหลือสมาชิก และภาคีเครือข่ายในการประกอบกิจกรรมเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และร่วมกันทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ และขยายความร่วมมือจัดตั้งชมรมฯ ระดับภาค ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และโรงเรียน ให้เด็ก ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องเข้าถึงและได้รับประโยชน์จากกิจกรรมของชมรมฯ โดยง่าย สู่การจัดการปัญหาเด็กอ้วนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง