Lifestyle

ระวัง!! แพทย์เตือนผู้ป่วยโรคเบาหวาน เสี่ยงต่อการเป็นโรคปริทันต์

ทันตแพทย์ชี้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เสี่ยงต่อการเป็นโรคปริทันต์อักเสบ กระตุ้นความรุนแรงของโรค และส่งผลให้อีกโรคหนึ่งรุนแรงตามไปด้วย ควรใส่ใจสุขภาพช่องปาก

นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคเบาหวานกับโรคปริทันต์ มีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกัน จากการที่ปกติแล้วในร่างกายจะมีฮอร์โมนชื่อว่า อินซูลิน คอยทำหน้าที่จับน้ำตาลในกระแสเลือดไปเป็นพลังงานให้แก่เนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย

shutterstock 1015348405

ส่วนโรคปริทันต์อักเสบ สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบทั่วทั้งระบบ ซึ่งการอักเสบนั้นก็จะไปรบกวนขบวนการควบคุมระดับน้ำตาลดังกล่าว

ดังนั้นเมื่อผู้ป่วยเป็นโรคปริทันต์อักเสบรุนแรง จะมีผลให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการ ดื้ออินซูลินในคนปกติ และหากเป็นผู้ป่วยในกลุ่มของโรคเบาหวาน ก็จะส่งผลกระทบให้ผู้ป่วยควบคุมระดับน้ำตาลได้ยากขึ้น รวมถึงมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานได้มากขึ้นอีกด้วย

ด้านทันตแพทย์หญิง ดร.สุมนา โพธิ์ศรีทอง ผู้อำนวยการ สถาบันทันตกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคเหงือกกับโรคเบาหวาน สัมพันธ์และมีผลต่อกัน เพราะในทางกลับกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูงของผู้ป่วยเบาหวาน ก็ส่งผลต่อสภาวะโรคปริทันต์อักเสบได้เช่นกัน

ทั้งนี้ เนื่องจากน้ำตาลในเลือดนั้น สามารถจับกับโปรตีนบางชนิดได้ถาวร ทำให้กระตุ้นการทำลาย และยับยั้งการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้โรคปริทันต์อักเสบมีความรุนแรงขึ้น

ทันตแพทย์หญิง ดร.สุมนา โพธิ์ศรีทอง1
ทันตแพทย์หญิง ดร.สุมนา โพธิ์ศรีทอง

สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคปริทันต์อักเสบถึง 4.2 เท่า หรืออาจกล่าวได้ว่า ความรุนแรงของโรคหนึ่ง ส่งผลให้อีกโรคหนึ่งรุนแรงตามไปด้วย ซึ่งควรใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายและสุขภาพช่องปากควบคู่กัน และเตรียมความพร้อมสำหรับการรักษาเป็นอย่างดี

สุขภาพช่องปาก เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจดูแล และเป็นประตูนำไปสู่การมีสุขภาพร่างกายที่ดีด้วย

ทันตแพทย์หญิงแพรวไพลิน สมพีร์วงศ์ ทันตแพทย์ชำนาญการพิเศษ ผู้เชี่ยวชาญสาขาปริทันตวิทยา กล่าวถึง โรคปริทันต์อักเสบ หรือ โรครำมะนาด เกิดจากเชื้อแบคทีเรียในคราบจุลินทรีย์ ผลิตสารทำลายเนื้อเยื่อและกระดูกที่รองรับฟัน

อีกทั้งแบคทีเรียเหล่านี้ ยังก่อให้เกิดแผลในบริเวณพื้นผิวกว้างได้ถึง 5-20 ตารางเซนติเมตร ซึ่งเป็นช่องทางให้แบคทีเรีย และสารอักเสบต่าง ๆ เข้าไปสู่กระแสเลือดได้ และอาจเป็นสาเหตุการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบภายในร่างกาย

ปริทนต์

การอักเสบเรื้อรังของโรคปริทันต์อักเสบ หรือโรคเหงือกนั้น อาจส่งผลกระทบต่ออวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย ซึ่งในทางกลับกัน ในโรค เช่น โรคเบาหวาน ก็สามารถส่งผลกระทบถึงสุขภาพช่องปากได้เช่นกัน

ส่วนการรักษาควรทำควบคู่กัน เพราะผู้ป่วยเบาหวาน ที่เป็นโรคปริทันต์อักเสบ และได้รับการรักษา จะช่วยให้การใช้อินซูลินในการควบคุมระดับน้ำตาลลดลง และในผู้ป่วยเบาหวาน ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในปริมาณที่ดี ความเสียงต่อการเป็นโรคปริทันต์อักเสบของผู้ป่วยเบาหวานนั้นก็จะไม่แตกต่างจากบุคคลทั่วไปที่ไม่เป็นโรคเบาหวานเลยเช่นกัน

ทั้งนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรได้รับการตรวจสุขภาพช่องปาก และติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอ หรือทุก ๆ 3 เดือน ซึ่งจะส่งผลให้มีสุขภาพช่องปาก และสุขภาพร่างกายที่ดีอย่างไปพร้อมกัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo