Environmental Sustainability

‘ซีพีเอฟ’ นับถอยหลัง ปีนี้! กิจการในไทย ‘เลิกใช้ถ่านหิน 100%’

“ซีพีเอฟ” เดินหน้าสู่เป้าหมาย “Coal Free 2022” ยกเลิกใช้ถ่านหิน 100% สำหรับกิจการในประเทศไทย ภายในปี 2565 ล่าสุด “ธุรกิจสัตว์บก” ยกเลิกทั้งหมด หันใช้ “พลังงานชีวมวลทดแทน” ขณะที่ “ธุรกิจผลิตอาหารสัตว์น้ำ” 2 แห่ง เตรียมยกเลิกใช้ภายในธันวาคมปีนี้ มุ่งมั่นลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

นายพีรพงศ์ กรินชัย รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านวิศวกรรมกลาง ในฐานะประธานความมุ่งมั่น ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรที่เป็นเลิศ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งมั่นมีส่วนร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่การผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปีนี้ ต้องบรรลุเป้าหมาย Coal Free 2022 ยกเลิกการใช้ถ่านหิน

ซีพีเอฟ

ล่าสุด โรงงานแปรสภาพขนเป็ด-ไก่ท้ายบ้านได้ยกเลิกการใช้ถ่านหิน ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจสัตว์บกของซีพีเอฟ ยกเลิกการใช้ถ่านหินแล้วทั้งหมด

ขณะนี้ยังเหลือเพียงโรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำมหาชัย และโรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำหนองแค ที่มีแผนยกเลิกใช้ถ่านหินภายในเดือนธันวาคมนี้ โดยทั้ง 3 โรงงานที่ยกเลิกการใช้ถ่านหิน จะทำให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เพิ่มอีก 70,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี

“ปัจจุบัน ธุรกิจสัตว์บกของซีพีเอฟ ได้ยกเลิกใช้ถ่านหินแล้วทั้งหมด จากที่ก่อนหน้านี้ โรงงานผลิตอาหารสัตว์บกทั้งหมด 13 แห่ง ยกเลิกการใช้ถ่านหินไปแล้วตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งภายในปีนี้ ซีพีเอฟจะสามารถยกเลิกการใช้ถ่านหิน สำหรับกิจการในประเทศไทยได้ 100 % อย่างแน่นอน”

สำหรับโรงงานแปรสภาพขนเป็ด-ไก่ท้ายบ้าน เป็นโรงงานสุดท้ายของธุรกิจสัตว์บกที่ยกเลิกใช้ถ่านหิน และหันมาใช้พลังงานจากชีวมวล โดยเลือกใช้ชีวมวล ที่มาจากวัสดุจากการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร อาทิ ไม้สับ ซังข้าวโพด กะลาปาล์ม และขี้เลื่อย ซึ่งนอกจากช่วยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังช่วยประหยัดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงลง

นอกจากนี้ โรงงานยังได้ลงทุนติดตั้งระบบบำบัดมลพิษ จากการเผาไหม้เชื้อเพลิง ด้วยระบบบำบัดอากาศแบบเปียก (Wet Scrubber) เพื่อกำจัดกลิ่นและฝุ่น ที่เกิดจากการเผาไหม้ไม่ให้ออกสู่สิ่งแวดล้อม

ซีพีเอฟ
พีรพงศ์ กรินชัย

ทั้งนี้ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจ โดยมีเป้าหมายเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 ซึ่งนอกจากบริษัทจะเดินหน้ายกเลิกการใช้ถ่านหิน 100% ในปีนี้แล้ว ยังส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ทั้งพลังงานจากชีวมวล พลังงานจากก๊าซชีวภาพ และพลังงานจากแสงอาทิตย์

ปัจจุบันสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนอยู่ที่ 27 % ของการใช้พลังงานทั้งหมด ช่วยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 575,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

นายพีรพงศ์ เปิดเผยด้วยว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ซีพีเอฟ ได้สมัครเข้าร่วมโครงการ Science Based Targets ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง CDP, United Nations Global Compact, World Resources Institute และ World Wide Fund for Nature โดยตั้งแต่ปี 2558 มีบริษัทมากกว่า 2,000 แห่งเข้าร่วมโครงการดังกล่าว เพื่อกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกตามหลักวิทยาศาสตร์ ในการรักษาอุณหภูมิของโลกไม่ให้เพิ่มเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เทียบกับยุคก่อนปฎิวัติอุตสาหกรรม

ซีพีเอฟ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo