จากพี่ถึงน้อง! ‘สนจ.’ จัดงาน ‘ปิยมหาราชานุสรณ์ 2566’ รวมใจชาวจุฬาฯ สานต่อความยั่งยืน-หาทุนช่วยนิสิตประพฤติดี

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 27 ตุลาคม 2566

สนจ. จัดงาน “ปิยมหาราชานุสรณ์ 2566: The Charity Gala Night” ภายใต้แนวคิด “จุดพลังเพื่อโลกยั่งยืน” รวมใจชาวจุฬาฯ สานต่อพระราชปณิธานความยั่งยืน “สมเด็จพระปิยมหาราช” พร้อมหารายได้สมทบ “ทุนจุฬาสงเคราะห์” และ “ทุนอาหารกลางวัน” แก่นิสิตความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ (สนจ.) ได้จัดงาน “ปิยมหาราชานุสรณ์ 2566: The Charity Gala Night” ภายใต้แนวคิด “จุดพลังเพื่อโลกยั่งยืน” ขึ้น เพื่อเชิญชวนชาวไทยน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ตามพระราชสมัญญานาม สมเด็จพระปิยมหาราช พระผู้พระราชทานกำเนิดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับราษฎรอย่างทั่วถึง

ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ นายกสนจ. และ ดร.จุลพงษ์ ทวีศรี ประธานฝ่ายจัดหารายได้ คณะกรรมการดำเนินงานปิยมหาราชานุสรณ์ 2566 ได้ร่วมนำพาปวงชนชาวไทยน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ ศาลาพระเกี้ยว จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

วัตถุประสงค์ของการจัดงานอีกประการคือ การหารายได้สมทบ ทุนจุฬาสงเคราะห์ และ ทุนอาหารกลางวัน แก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์

การจัดงานในปีนี้ ถือว่ามีความพิเศษ ด้วยการน้อมนำพระราชปณิธาน และพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระปิยมหาราชด้านการบริหารจัดการด้านความยั่งยืน และสาธารณประโยชน์ มาเป็น “จุดพลังเพื่อโลกยั่งยืน” แนวคิดหลักในการจัดงาน ทั้งยังจัดขึ้ันภายใต้แนวทางการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับศูนย์ ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก องค์การมหาชน (อบก.) จนได้รับรองมาตรฐานเป็น Carbon Neutral Event ซึ่งถือว่าช่วยโลกด้วย

นายอรรถพล นายก สนจ. กล่าวถึงความสำคัญในการจัดงานปิยมหาราชานุสรณ์ ว่า วันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ชาวจุฬาฯ ต่างน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ น้อมใจแสดงความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียงกัน

งานปิยมหาราชานุสรณ์ 2566: The Charity Gala Night จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “จุดพลังเพื่อโลกยั่งยืน” เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงมีสายพระเนตรที่ยาวไกล ทรงวางรากฐานงานด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับประเทศชาติในหลากหลายมิติ รวมทั้งได้โปรดเกล้าให้จัดตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของประเทศ ทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับการจัดงานในปีนี้ จัดขึ้นในรูปแบบ คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ หรือ ปลอดคาร์บอน (Carbon Neutral Event) เพื่อสืบสานพระราชปณิธานความยั่งยืน โดยภายในงานจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เน้นใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ ใช้การ Reuse และ Recycle รวมถึงชดเชยด้วย Carbon Credit เพื่อให้การจัดงานเป็นแบบ Carbon Neutral Event อย่างสมบูรณ์

นอกจากการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณแล้ว ยังมีการระดมทุนบริจาค เพื่อสนับสนุนทุนจุฬาสงเคราะห์ และทุนอาหารกลางวัน สำหรับนิสิตที่มีความประพฤติดี แต่มีปัญหาด้านทุนทรัพย์ รวมถึงสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลเพื่อสังคม ของสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์อีกด้วย

“ผมในฐานะนายกสมาคมฯ มีความตั้งใจที่จะให้สมาคมฯ เป็นศูนย์กลาง ยึดโยงนิสิตเก่าทุกรุ่น ทุกสาขาอาชีพ รวมถึงนิสิตปัจจุบัน ให้จุฬาฯ เป็นหนึ่งเดียว พร้อมร่วมกันขับเคลื่อนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสถาบันศึกษาของพวกเรา ให้เติบโตอย่างยั่งยืนพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง โดยส่งเสริมทั้งด้านวิชาการ และวิชาชีพ ควบคู่คุณธรรมและจริยธรรม ตลอดจนสร้างการมีส่วนร่วมกับเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาประเทศสู่ความยั่งยืน”

ทางด้าน ดร.จุลพงษ์ ประธานฝ่ายจัดหารายได้ คณะกรรมการดำเนินงานปิยมหาราชานุสรณ์ 2566 กล่าวว่า รู้สึกดีใจ และเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมที่สำคัญยิ่งในปีนี้ ซึ่งจะได้ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงหยั่งลึกงานด้านความยั่งยืน และสาธารณประโยชน์ให้กับประเทศไทยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน

ผ่านกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ นิทรรศการแสดงภาพถ่ายและเครื่องใช้หาชมยากในสมัยรัชกาลที่ 5 กิจกรรม CU Alumni Talk “จุดพลังเพื่อโลกยั่งยืน” รวมถึงละครเวทีเทิดพระเกียรติพระปิยมหาราช ชุด “Net Zero Hero พลังแห่งรัก พลังที่ยั่งยืน”

ที่ผ่านมา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความสำคัญกับเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนมาโดยตลอด โดยประกาศเจตนารมณ์ มุ่งสู่มหาวิทยาลัยที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญก็คือ โครงการ Chula Zero Waste ที่นิสิต คณาจารย์ และบุคคลากร ของมหาวิทยาลัยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

อีกกิจกรรมสำคัญคือ การระดมทุนบริจาคทุนจุฬาสงเคราะห์ และทุนอาหารกลางวัน ที่จะช่วยสร้างรากฐานในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้นิสิตได้รับโอกาสที่เท่าเทียม และเสมอภาค โดยการบริจาคของผู้มีจิตศรัทธาทั่วไป ยังสามารถบริจาคได้จนถึง 30 พฤศจิกายนนี้ สามารถติดตามรายละเอียดได้ทางเฟซบุ๊กเพจ Chula Alumni

ขณะที่ นายณัฐพล รังสิตกุล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงาน ปิยมหาราชานุสรณ์ 2566 กล่าวว่า นับเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง ที่งานปิยมหาราชนุสรณ์ในปีนี้ ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากนิสิตเก่า ผู้มีจิตศรัทธาในการร่วมบริจาค เพื่อสมทบทุนจุฬาสงเคราะห์ ทุนอาหารกลางวัน และ สนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลของสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ โดยยอดบริจาคปัจจุบันเป็นจำนวนเงินถึง 15,884,202 บาท

“ผมขอขอบคุณคณะผู้จัดงาน แขกผู้มีเกียรติ รวมถึงเหล่าคณาจารย์บุคคลากรนิสิตปัจจุบัน นิสิตเก่าจุฬา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ สื่อมวลชนทุกท่านที่ให้การสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้จนสำเร็จ ลุล่วง ไปอย่างดี ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่างานปิยมหาราชานุสรณ์ จะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นนี้ตลอดไป”

พร้อมกันนี้ ยังได้เชิญชวนร่วมกันสมทบทุนจุฬาสงเคราะห์ และทุนอาหารกลางวัน ให้กับนิสิตที่มีความประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมของสมาคมฯ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาคมจุฬาฯ และสังคมโดยรวม

ผ่านการโอนเข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 073-3-51890-1 บัญชีชื่อ มูลนิธิสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566

อ่านข่าวเพิ่มเติม