อีริกสันเดินหน้าเปิดตัวโซลูชัน หวังยกระดับจากเครือข่าย 4G สู่ 5G ได้อย่างไร้รอยต่อ พร้อมชี้เทคโนโลยีใหม่ช่วยให้การลงทุน 5G คุ้มค่าในระยะยาวเนื่องจากช่วยลดต้นทุนด้านดาต้าต่อกิกะไบต์ให้น้อยลง 10 เท่าเมื่อเทียบกับเครือข่าย 4G ในปัจจุบัน ทั้งนี้มีการนำงานวิจัยมายืนยันว่าสามารถเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการไทยสูงขึ้นถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์หรือ 22% ของรายได้ที่คาดการณ์ไว้ภายในปี พ.ศ. 2569
โดยการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีเครือข่ายที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ทางอีริคสันได้เผยว่า Radio System ของอีริคสันทั้งหมดที่ถูกติดตั้งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 จะสามารถรองรับ 5G NR ด้วยการติดตั้งซอฟต์แวร์ ซึ่งจะตอบสนองต่อปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นและรองรับการเข้าถึงเนื้อหามัลติมีเดีย อย่างวีดีโอสตรีมมิ่ง 4K/8K, Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) ได้เลยทันที
นางนาดีน อัลเลน ประธานบริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปี 2566 จะมี 20% ของประชากรทั่วโลกได้ใช้เครือข่าย 5G สำหรับประเทศไทยถือเป็นประเทศผู้นำในด้านการรับเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงมีการโปรโมตอย่างหนักเพื่อสร้างประเทศไปสู่ดิจิทัล แต่ตัวที่จะทำให้มันเกิดขึ้นจริงได้นั้นต้องมีการวางแผนด้านคลื่นความถี่ตั้งแต่ตอนนี้แล้ว ดังนั้นช่วงปี 2563 – 2565 จะเป็นช่วงของการเริ่มนำ 5G มาปรับใช้อย่างเป็นรูปธรรม และด้วย 5G จะทำให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน
สำหรับรายได้ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์นั้นจะกระจายตัวออกไปในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ภาคการผลิต, อุตสาหกรรมพลังงาน, ความปลอดภัยสาธารณะ, สุขภาพ, สื่อและความบันเทิง เป็นต้น
“กรณีที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ก่อนในประเทศไทยคือเรื่องของการเพิ่มศักยภาพของโมบายล์บรอดแบนด์ ส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้น จะมาจากธุรกิจใหม่ ๆ เช่น การนำอุปกรณ์ IoT ไปใช้ในภาคการผลิต, ธุรกิจด้านสุขภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นธุรกิจที่ยังไม่ถูกนำมารวม เนื่องจากไม่มีโซลูชันที่คุ้มค่ามากพอ” นายวุฒิชัย วุฒิอุดมเลิศ หัวหน้างานฝ่าย Network Solutions บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริม
ในด้านการแข่งขันกับแบรนด์สัญชาติจีนนั้น นางสาวนาดีนระบุว่าการแข่งขันเป็นสิ่งที่ดี และไม่ได้กลัวการแข่งขันกับแบรนด์จีนแต่อย่างใด
สำหรับเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นจากการมาถึงของ 5G ในมุมของอีริคสันนั้น นางนาดีนเผยว่า การใช้ดาต้าจากปี 2560 จะเพิ่มขึ้นถึง 8 เท่าในปี 2566 และคอนเทนต์วิดีโอจะเติบโตขึ้น 10 เท่า คิดเป็น 75% ของทราฟฟิกทั้งหมด โดย 20% ของทราฟฟิกในปี 2566 จะอยู่บนเครือข่าย 5G
ยกนวัตกรรมจาก MWC แสดงที่ไทย
นอกจากการนำเสนอในส่วนของเทคโนโลยี 5G อีริคสันยังมีการจัดแสดงโซลูชันที่เกี่ยวข้องกับ 5G ในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย เช่น เหมืองแร่เรียลิตี้ โดยเป็นการจำลองเหตุการณ์ในเหมืองที่ใช้เทคโนโลยี Virtual Reality และ Augmented Reality ช่วยชีวิตพนักงานในเหมืองได้หากเกิดอุบัติเหตุ
หรือในส่วนของการฝึกทักษะต่าง ๆ เช่น การเรียนการสอนด้านสาธารณสุขผ่านระบบทางไกล โดยใช้เทคโนโลยี Virtual Reality ทำให้ผู้เรียนกับผู้สอนเหมือนอยู่ในที่เดียวกัน และสามารถทำหัตถการต่าง ๆ ได้แบบเสมือนจริง
โซลูชันด้านเมืองอัจฉริยะก็เป็นอีกหนึ่งโซลูชันที่เกิดขึ้นจริงได้ภายใต้เครือข่าย 5G โดยจะมีการเชื่อมต่อระบบต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ทำให้สามารถบริหารจัดการเมืองได้จากศูนย์กลาง และเห็นข้อมูลต่าง ๆ ของเมืองได้อย่างครบวงจร
ส่วนคำถามที่ว่าผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใดของไทยจะเป็นผู้คว้า 5G มาให้คนไทยได้ใช้ก่อนกันนั้น นางนาดีนปฏิเสธที่จะตอบ
