การที่ซูซาน วอจซิกกี (Susan Wojcicki) ซีอีโอยูทูบ (YouTube) ออกมาประกาศความสำเร็จด้วยอีกหนึ่งตัวเลขเร้าใจของแพลตฟอร์ม โดยระบุว่า ปัจจุบัน ยูทูบมีผู้ใช้งานล็อกอินเข้ามาชมวิดีโอมากกว่า 1.8 พันล้านคนต่อเดือนไม่ใช่เรื่องที่เกินคาดแต่อย่างใด ที่สำคัญ ตัวเลขนี้ไม่รวมผู้ที่เข้าชมโดยไม่มีแอคเคาน์เสียด้วย
การเติบโตที่สวยงามของยูทูบน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวสร้างสีสันในงาน Google I/O ที่จะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้ เพราะหากมองย้อนไปเมื่อช่วงกลางปี 2560 บริษัทได้เคยประกาศตัวเลขผู้ชมเอาไว้ที่ 1.5 พันล้านคน ซึ่งเท่ากับว่ามีการเติบโตเพิ่มขึ้นมา 300 ล้านคนภายในเวลาเกือบหนึ่งปี นอกจากนี้ เธอยังได้กล่าวถึงประเด็นสำคัญเรื่องหนึ่งที่ยูทูบบอกว่าอยากจะเติบโตอย่างรับผิดชอบ กับการมีวิดีโอไม่เหมาะสมบนบริการ ยูทูบ คิดส์ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กเล็กว่า บริษัทได้มีการดึงพนักงานเข้ามาช่วยตรวจสอบเนื้อหาในวิดีโอ รวมถึงสัญญาว่าจะว่าจ้างพนักงานตรวจสอบเพิ่มอีก 10,000 ตำแหน่งด้วย
“ยูทูบได้ปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยการดึงโลกเข้ามาใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่การเป็นแพลตฟอร์มแบบเปิดก็มาพร้อมความท้าทาย และพบว่าหลายภาคส่วนพยายามใช้ประโยชน์จากบริการของเรา”
ไม่เฉพาะยูทูบ แต่เฟซบุ๊กที่ประสบปัญหาด้านข่าวปลอม ก็มีการประกาศว่าจ้างพนักงานเข้ามาตรวจสอบเนื้อหาเพิ่มขึ้นถึง 5,000 ตำแหน่งเมื่อปีที่ผ่านมาเช่นกัน
อย่างไรก็ดี หากหันมามองประเทศไทย กรณีข่าวฉาวของการโฆษณาผิดกฎหมาย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐานนั้น ทางสำนักงาน กสทช. ร่วมกับทาง อย. ก็มีการจัดเจ้าหน้าที่มาดูแลตรวจสอบเนื้อหาเช่นกันตามที่ได้มีการแถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม โดยมีเจ้าหน้าที่จาก อย. มาทำงานนี้ที่ กสทช. จำนวนทั้งสิ้น 6 คนถ้วน ขณะที่ตัวเลขของโฆษณาที่เพิ่มขึ้นมาบนช่องทางต่าง ๆ ตามการประกาศของ อย. นั้น มีมากกว่าหลักแสนชิ้น ซึ่งถือเป็นการแถลงข่าวที่น่าติดตามต่อไปอย่างยิ่งว่า จะสามารถกำกับดูแลโฆษณาเหล่านี้ให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนได้หรือไม่
