Technology

ยกระดับ ‘ระบบขนส่งแบบไร้คนขับ’ ในพื้นที่อุตสาหกรรม SCG แห่งแรกในไทย

ยกระดับ ‘ระบบขนส่งแบบไร้คนขับ’ สั่งการรถบรรทุกเครื่องยนต์ไฟฟ้า ผ่านเครือข่าย 5G ในพื้นที่อุตสาหกรรม SCG แห่งแรกในไทย

SCG โดย Circular Plus by CPAC Green Solution จับมือ AIS 5G และ Huawei พร้อมนำความเชี่ยวชาญจาก 2 พันธมิตร Yutong และ Waytous ร่วมต่อยอดความสำเร็จจากต้นแบบ Forklift ขับเคลื่อนระยะไกล สู่ นวัตกรรมการขนส่งไร้คนขับ ด้วยศักยภาพ 5G ขับเคลื่อน รถบรรทุกเครื่องยนต์ไฟฟ้า ที่ใช้ในการบริหารวางแผน เส้นทางเดินรถขนส่งวัตถุดิบภายในพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรม SCG จังหวัดสระบุรี สอดคล้องการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ควบคู่ไปพร้อมการสร้างสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCG กล่าวว่า ทั่วโลกมุ่งสู่ยุคอุตสาหกรรมอัจฉริยะ ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลยุคใหม่ เพื่อบริหารจัดการทรัพยากร ทั้งวัตถุดิบ คน งบประมาณ เวลาเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ระบบขนส่งแบบไร้คนขับ

ยกระดับระบบขนส่งแบบไร้คนขับ

SCG จึงได้นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้อย่างต่อเนื่อง เช่น การพัฒนารถ Forklift ขับเคลื่อนระยะไกลด้วยเครือข่าย 5G และต่อยอดมาสู่ความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่ง SCG โดย Circular Plus by CPAC Green Solution ผนึกกำลังความเชี่ยวชาญจาก เอไอเอส ผู้นำเทคโนโลยี 5G ในไทย หัวเหว่ย ผู้นำด้านเทคโนโลยี ICT รวมทั้งพันธมิตรจากประเทศจีน Yutong ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า และ Waytous ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในระบบยานยนต์ไร้คนขับสำหรับอุตสาหกรรม ในการพัฒนาระบบขนส่งด้วยยานยนต์ไร้คนขับสำหรับอุตสาหกรรม

เพื่อขยายขีดความสามารถของอุตสาหกรรม ทั้งด้านการขนส่ง (Logistics) ในการวางแผนเส้นทางการขนส่งวัตถุดิบ เชื่อมต่อระหว่างคันได้อย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว ด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะในงานที่มีความเสี่ยง ตลอดจนด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า และเทคโนโลยีวางแผนการเดินทางอย่างแม่นยำ จึงช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 35% ต่อปี เมื่อเทียบกับระบบเดิม

สอดคล้องกับเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593  (Net Zero 2050) ตามแนวทาง ESG 4 Plus (มุ่ง Net Zero – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ – ย้ำร่วมมือ ภายใต้หลักเชื่อมั่น และโปร่งใส)

ระบบขนส่งแบบไร้คนขับ

ควบคุมรถระยะไกลได้แบบเรียลไทม์

ด้าน นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า 5G คือเทคโนโลยีที่จะช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรมที่เป็นหัวใจสำคัญในการพาประเทศก้าวไปข้างหน้า ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นนำความถี่ 5G ซึ่งมีมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คือ1420 MHz มาให้บริการลูกค้าและทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง

ดังเช่นในปี 2563 ที่เคยร่วมกับ SCG ทดลองทดสอบ Solutions 5G  remote controlled forklift ให้สามารถควบคุมผ่านระยะไกล บนเครือข่าย 5G จาก SCG สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ  ไปยังโรงงาน SCG  จังหวัดสระบุรี โดยผู้ควบคุมรถ ไม่ต้องอยู่ที่เดียวกับรถ แต่สามารถควบคุมรถให้เคลื่อนย้าย สิ่งของจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดที่ต้องการได้แบบเรียลไทม์และแม่นยำ

ซึ่งจากความสำเร็จดังกล่าว ได้ต่อยอดมายังความร่วมมือในโครงการ 5G Smart Autonomous Vehicles Solutions for Sustainable Industrial Advancement ครั้งนี้

โดยได้ทำงานร่วมกับ Huawei ในฐานะ Strategic Partner ติดตั้งเครือข่าย AIS 5G Private Network เพื่อให้สามารถควบคุมการกระจายสัญญาณไปยังบริเวณไซต์งานของ SCG ได้อย่างเฉพาะเจาะจง และใช้ขีดความสามารถของ 5G คือ ความเร็ว,ความหน่วงในระดับต่ำกว่า 20 ms และการเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์ได้ในปริมาณมาก

เมื่อผสมผสานเข้ากับแพลตฟอร์มอัจฉริยะที่ช่วยบริหารจัดการการวางแผนเส้นทางวิ่ง เพื่อขนส่งอุปกรณ์ในพื้นที่อุตสาหกรรม พร้อมเชื่อมต่อระหว่างคันได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีระยะเวลาว่างงานน้อยที่สุด ก็ยิ่งทำให้ช่วยเพิ่ม Productivity ในภาคอุตสาหกรรม และเพิ่มความปลอดภัยในงานที่มีความเสี่ยงสูงอย่างตอบโจทย์

ระบบขนส่งแบบไร้คนขับ

พัฒนาระบบขนส่งแบบไร้คนขับ สั่งการรถบรรทุกเครื่องยนต์ไฟฟ้า

นายอลัน เหลียว ประธานฝ่ายกลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการเครือข่าย บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะนำเทคโนโลยี 5G มาประยุกต์ใช้จริง ในด้านการบริหารจัดการการวางแผนเส้นทางวิ่งเพื่อขนส่งอุปกรณ์ในพื้นที่ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อภาคอุตสาหกรรม ช่วยพัฒนาระบบขนส่งด้วยรถบรรทุกเครื่องยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับ ให้มีความปลอดภัย คล่องตัวและเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลมากยิ่งขึ้น นับเป็นการยกระดับระบบขนส่งแบบไร้คนขับในประเทศไทย

หัวเว่ยจะนำความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่มีมาช่วยยกระดับโครงการโซลูชัน 5G ยานยนต์อัจฉริยะของ SCG (5G Smart Autonomous Vehicles Solutions for Sustainable Industrial Advancement) โดยจะทำงานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อเสริมศักยภาพ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดการปล่อยคาร์บอนให้น้อยลง เป็นต้นแบบของ Green Manufacturing ให้กับทุกอุตสาหกรรมที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย

จุดประกายในการนำเทคโนโลยี 5G มาประยุกต์ใช้และสร้างมาตรฐานใหม่ ส่งเสริมอุตสาหกรรมสีเขียว ซึ่งจะเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่การปฏิรูปประเทศไทยให้มีความก้าวหน้า พัฒนาได้อย่างยั่งยืนและเป็นผู้นำด้านสังคมคาร์บอนต่ำของอาเซียน

ระบบขนส่งแบบไร้คนขับ

เปิดศักราชใหม่ให้ภาคอุตสาหกรรมของไทย

Mr. Yu Zhiqiang ซีอีโอของ Mining Equipment กล่าวว่าความร่วมมือครั้งนี้เป็น การเปิดศักราชใหม่ของการทำเหมืองที่เป็นระบบอัจฉริยะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

YUTONG GROUP จำหน่ายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์พลังงานใหม่ 160,000 คันทั่วโลก พร้อมด้วยประสบการณ์ด้านเครื่องจักรก่อสร้างมากว่า 64 ปี โดยเป็นรายแรกที่เปิดตัวรถบรรทุกขุด EV ตั้งแต่ปี 2561 โดยเป็นผู้นำในด้านการตลาด การวิจัย และพัฒนา การเลือกใช้วัสดุ การผลิต การควบคุมคุณภาพ และบริการ

นอกจากนี้ยังเป็นผู้ผลิตที่ครองส่วนแบ่งการตลาดหลักของอุตสาหกรรมรถขุดไฟฟ้า ที่ใช้แบตเตอรี่โดยให้บริการพื้นที่ทำเหมืองและอุตสาหกรรม มากกว่า 100 แห่งทั่วโลก โดยมีอัตราความปลอดภัยกว่า 1,500 วัน

Prof. Chen Long ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Waytous กล่าวว่าความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องหมายของการบรรลุความตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือนี้เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการเริ่มต้นของการมีส่วนร่วม   ในการทำงานร่วมกันครั้งนี้ เราจะค่อยๆ กำหนดมาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีการทำงานด้วยระบบอัจฉริยะ คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เราเชื่อว่าจะนำภาคอุตสาหกรรมไปสู่การลดคาร์บอน และสร้างระบบการทำงานที่มีการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีในประเทศไทย และแม้แต่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด

นวัตกรรมรถบรรทุกเครื่องยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับ และ ระบบควบคุมรถระยะไกล (Unmanned EV Truck & Remote Control Vehicle) ผ่าน AIS 5G จะเริ่มนำมาใช้ในพื้นที่จริงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และเตรียมขยายผลสู่พื้นที่อุตสาหกรรมของ SCG อย่างต่อเนื่อง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo