การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ทั่วโลก ตกอยู่ในภาวะที่เกือบเป็นอัมพาต ทำให้เกิด “เทคโนโลยี ดิสรัปชัน” มีการนำเทคโนโลยีหลายอย่างเข้ามาใช้ และเกิดการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรองรับความต้องการ และอำนวยความสะดวก ในด้านต่างๆ ที่ต้องขาดหายไป ในช่วงของการระบาด และจัดเตรียมไว้สำหรับกรณีที่อาจเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาอีกในอนาคต
ช่วงวิกฤติเช่นนี้ ทำให้เกิด “เทคโนโลยี ดิสรัปชัน” ในหลายด้านด้วยกัน และนี่คือ 10 เทคโนโลยี ดิสรัปชัน ที่มาแรงในยุค “โควิด-19”
10 เทคโนโลยี ดิสรัปชัน มาแรง
1. โควิด-19 ดัน 5G พัฒนาเร็วขึ้น
เป็นเรื่องที่ชัดเจนมาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วว่า ทุกคนทั่วโลก ต้องการการเชื่อมต่อที่เร็วขึ้น ทั้งที่บ้าน และที่ทำงาน แต่การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 เร่งความต้องการนี้ให้เพิ่มมากขึ้น จากการที่คนทำงาน ต้องละทิ้งออฟฟิศ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกันอย่างดี ไปทำงานอยู่ที่บ้านแทน ซึ่งทำให้มีความต้องการเครือข่ายที่ดีกว่าเดิม เพื่อให้ทุกคนสามารถติดต่อกันได้
ข่าวดีก็คือ แม้จะเกิดการระบาด แต่การพัฒนาก็ไม่หยุดหนึ่ง บริษัท โทรคมนาคมจำนวนมาก กำลังเคลื่อนไหวไปตามกำหนด หรือเร็วขึ้นกว่าเดิม ในเป้าหมายเรื่องการใช้งานเครือข่าย 5G
เมื่อเดือนพฤษภาคม Verizon ได้เปิดตัวห้องทดลองเสมือน เพื่อทดสอบการใช้งาน 5G และเปิดตัว 5G ครอบคลุมพื้นที่ทั่วเมืองซานดิเอโก ส่วนในจีนการติดตั้ง 5G กำลังเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ถึงขนาดที่ Ericsson ต้องขยายเป้าหมายการลงทะเบียน 5G ตลอดทั้งปี ขณะเดียวกัน Qualcomm ประกาศว่า อุปกรณ์กว่า 60% ที่จัดส่งในไตรมาส 2 นั้น เป็นอุปกรณ์ที่รองรับ 5G
เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับ 5G
- ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ 380 รายที่ลงทุนใน 5G
- ผู้ให้บริการ 80 รายในกว่า 35 ประเทศ เปิดบริการ 5G เชิงพาณิชย์แล้ว
- OEM มากกว่า 45 ราย ได้เปิดตัว หรือประกาศพัฒนาอุปกรณ์ 5G
นอกจากนี้เรายังได้เห็นโทรศัพท์มือถือจำนวนหนึ่ง ที่เปิดตัวในช่วงปีที่ผ่านมา เป็นมือถือที่พร้อมสำหรับการเชื่อมต่อ 5G ทั้งยังมีข่าวลือกว่า แอปเปิ้ล จะเปิดตัว iPhone 5G ในปลายปีนี้ หรืออาจจะเป็นในปี 2564
สิ่งที่ชัดเจนคือ การระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ได้ทำให้การพัฒนา 5G เลยชะลอตัว แต่จะทำให้เติบโตอย่างมาก ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และ ปี 2564 น่าจะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับเทคโนโลยี 5G
2. WiFi 6 กำลังจะมา
เมื่อปีที่แล้ว มีการคาดการณ์ว่า 5G และ WiFi 6 ที่ทำงานร่วมกัน จะสร้างการเชื่อมต่อที่รวดเร็วเป็นพิเศษแบบครบวงจร สำหรับบ้าน และที่ทำงาน ซึ่งทำให้มีการประเมินกันว่า ความเร็วในการดาวน์โหลดจะเร็วขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับ WiFi 5
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา FCC เจ้าหน้าที่คุมกฎระเบียบด้านเทคโนโลยีการสื่อสารของสหรัฐ มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้เปิดคลื่นความถี่ใหม่ ให้กับอุปกรณ์ที่สามารถรองรับระบบไวไฟรุ่นใหม่ได้ ซึ่งหมายความว่า เราจะยังไม่รู้แน่ชัดว่า ระบบไวไฟรุ่นใหม่นี้ จะทำงานได้ดีเพียงใด
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่า อุปกรณ์แรกที่ติดตั้ง WiFi 6 จะเปิดตัวในปลายปีนี้
3. Big Data – การวิเคราะห์ข้อมูล
บริษัทต่างๆ ที่ไม่ได้ลงทุนอย่างมาก ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลในปี 2563 อาจจะทำธุรกิจต่อไปไม่ได้ในปี 2564
การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และการวิเคราะห์ ขยายตัวมาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเกิดวิกฤติโควิดขึ้นมา ยิ่งทำให้ความต้องการข้อมูลมีมากขึ้น
บริษัท และสถาบันต่างๆ อย่าง Johns Hopkins และ SAS ได้สร้างแดชบอร์ดด้านสุขภาพ ของโควิด-19 ที่รวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลมากมาย เพื่อช่วยให้รัฐบาล และธุรกิจสามารถตัดสินใจ เพื่อปกป้องพลเมือง พนักงาน และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ
การที่ธุรกิจต่างๆ เริ่มกลับมาเปิดอีกครั้ง เราจึงใช้ข้อมูล และการวิเคราะห์ สำหรับการตามรอยโรค และช่วยในการตัดสินใจอื่น ๆ ในที่ทำงาน
ทั้งเมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีประกาศจาก บริษัท เทคโนโลยีขนาดใหญ่หลายแห่งเช่น Microsoft, HPE, Oracle, Cisco และ Salesforce ที่จะมุ่งเน้นการพัฒนาเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เพื่อช่วยให้พนักงานกลับมาทำงานได้อย่างปลอดภัย บางรายถึงขั้นเสนอให้ลูกค้าของตัวเองใช้งานได้ฟรี
4. AI Machine Leaning
การที่ ข้อมูล (data) ยังคงเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณแต่หากไม่มี เทคโนโลยี มาวิเคราะห์ ข้อมูลเหล่านี้ก็ไร้ประโยชน์
ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา AI และ แมชชีนเลิร์นนิง (Machine Learning) ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากภาคธุรกิจต่างหันมาใช้เทคโนโลยี เพื่อเข้าถึงข้อมูลของตัวเองได้ในเชิงลึก
เมื่อปีที่แล้ว IT Ops และ Splunk บริษัทด้านการรักษาความปลอดภัย ได้ประกาศแคมเปญ “Data to Everything” หรือ “ข้อมูลเพื่อทุกสิ่ง” ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการอย่างจริงจัง เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในขณะนี้
ข้อมูลทั้งหมดที่จะถูกจับมาจัดเก็บไว้ บริหารจัดการ สร้างการเชื่อมโยง และแสดงภาพให้เห็นอย่างรวดเร็ว ถือเป็นการมองการณ์ไกลอย่างแท้จริง
5. Blockchain
ปี 2563 มีแนวโน้มจะเป็นการปีแห่งการผงาดขึ้นมาของ บล็อกเชน (blockchain) ที่อยู่นอกอุตสาหกรรมเงินดิจิทัล อย่างแท้จริง
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ระบุว่า บล็อกเชน เป็นเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการต่อสู้กับโควิด และซ่อมแซมเศรษฐกิจสหรัฐที่พังทลาย
หากนำไปใช้อย่างถูกต้อง บล็อกเชนมีศักยภาพในการแก้ไขซัพพลายเชน ที่ได้รับความเสียหายจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ผ่านการประมวลผล และตรวจสอบธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว
เทคโนโลยีนี้ อาจเป็นตัวเร่งที่สมบูรณ์แบบในการทำให้ บล็อกเชน เป็นเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับก้าวไปข้างหน้า
6. RPA/IPA เติบโตมากขึ้นหลังพ้นโควิด
หากมีสิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยให้ บริษัท เคลื่อนไหวได้เมื่อพนักงานไม่สามารถอยู่ในสำนักงานได้นั่นคือ RPA และ IPA ซึ่งเป็น กระบวนการอัตโนมัติอัจฉริยะ
ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า แม้วิกฤติโควิดจะผ่านพ้นไป เราก็จะเห็น บริษัท จำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ต้องการลดภาระงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจจะดำเนินไปอย่างราบรื่น เมื่อเกิดการหยุดชะงักทั่วโลกครั้งต่อไป
สิ่งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการย้ายงานมากนัก เนื่องจากเป็นเรื่องของการยกระดับ และทำให้งานเป็นไปโดยอัตโนมัติ แน่นอนว่า บริษัท ต่างๆ จะต้องแยกแยะรายละเอียดที่สำคัญนี้
ข้อเท็จจริงดังกล่าว จะทำให้ ระบบซอฟต์แวร์อัตโนมัติ อย่าง RPA และ IPA เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ซึ่งในขณะนี้ มีการลงทุุนอย่างหนักในระบบอัตโนมัติ ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ เพื่อให้เข้ากับระบบคลาวด์ และนำ AI เข้ามาช่วยในเรื่องการเร่งความเร็ว
7. AI bots เอไอพูดได้
ช่วงที่เกิดการล็อกดาวน์ เพราะการระบาดของไวรัสโควิด- 19 สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มภาคธุรกิจ คือการบริการลูกค้า ที่นำ AI bots เข้ามาใช้งาน สำหรับตอบคำถามลูกค้า และทำให้โลกธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีพนักงานในส่วนนี้ทำงานอยู่ก็ตาม
เทคโนโลยีนี้ได้รับความสนใจจาก บริษัท เทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก AI bots ทำได้ ตั้งแต่การทำงานร่วมกันทางวิดีโอ ที่ควบคุมด้วยเสียง ไปจนถึงผู้ช่วยส่วนตัวบนอุปกรณ์มือถือของคุณ ไปจนถึงแชทบอทที่ช่วยคุณในการชอปปิ้งออนไลน์
8. ACPCs เริ่มแสดงคุณค่า
ความต้องการแล็ปท็อปเพิ่มสูงขึ้น ในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ และบริษัทต่างๆ เช่น Lenovo และ Samsung ได้เปิดตัว ACPC (Always Connected PCs ) หรือ พีซีที่เชื่อมต่อตลอดเวลา รุ่นต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการเชื่อมต่อกัน ในช่วงเวลาที่โลกหยุดนิ่ง
OEM และผู้ผลิตชิปอย่าง Intel และ AMD จำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ กำลังมองหา พีซีที่เชื่อมต่อตลอดเวลา หรือเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน เพื่อให้การเชื่อมต่อคงที่โดยใช้ LTE และ 5G บนมือถือ
เทคโนโลยีนี้ อาจกลายเป็นวิธีที่สำคัญอย่างแท้จริงในการจัดหาแล็ปท็อปที่รวดเร็ว และเป็นมิตรกับแบตเตอรี่ สำหรับพนักงานบริษัท นักเรียน และคนอื่น ๆ ที่อาจไปทำงานที่สำนักงาน ไปเรียนที่โรงเรียน หรือไปนั่งตามร้านกาแฟได้
9. รถยนต์เชื่อมต่อ โดรน และเทคโนโลยีอื่น
การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้รัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกพากันรวบรวมข้อมูล เพื่อตามรอยโรค และมีการนำแอปพลิเคชันต่างๆ ในการเชื่อมต่อการสื่อสาร และข้อมูล เข้ามาใช้ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก และอาจกลายเป็นการปูทางสำหรับการทำไปใช้ใน สมาร์ท ซิตี้ หรือเมืองอัจฉริยะต่อไป
รถยนต์ที่เชื่อมต่ออาจไม่ได้รับความสำคัญมากนัก ในช่วงการแพร่ระบาด แต่บริษัทรถยนต์ ยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีไปอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเดือนที่แล้ว Mercedes และ NVIDIA ได้ประกาศความร่วมมือที่จะนำคอมพิวเตอร์ NVIDIA มาใช้ในรถยนต์ภายในปี 2567
ส่วนที่ดีที่สุดของการเชื่อมต่อ คือ รถจะสามารถอัปเดตข้อมูลผ่านอากาศ เหมือนกับโทรศัพท์ และอุปกรณ์อื่น ๆ ของเราในตอนนี้ ความเคลื่อนไหวเหล่านี้อาจเล็กน้อย แต่ผลกระทบอาจมีผลอย่างมากต่ออุตสาหกรรมเมื่อเราก้าวเข้าสู่ปี 2564
10. แนวโน้มเทคโนโลยีเชื่อมต่อมาแรง ปี 2563
ตลาด XaaS (ทุกอย่างเป็นบริการ), UX / CX (ประสบการณ์ผู้ใช้ / ลูกค้า) และความเป็นส่วนตัวทางดิจิทัล เติบโตขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจาก บริษัท ต่างๆต้องซื้อเทคโนโลยีที่จำเป็น เพื่อให้พนักงานเชื่อมต่อกันได้ และเนื่องจากการทดลองทำงานจากที่บ้านประสบความสำเร็จเป็นส่วนใหญ่ ทำให้มีแนวโน้มว่า ตลาดนี้จะยังคงขยายตัวต่อไป เนื่องจากระบบเดิมถูกกำจัด หรือนำไปสู่การบริโภคเช่นแบบจำลอง
การให้ความสำคัญกับ UX / CX ช่วยผลักดันการลงทุนทางธุรกิจในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และมุ่งเน้นไปที่การรักษาลูกค้ามากขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ทะลุ 22 ล้านคน! ‘หมอธีระ’ ย้ำไทยระวังหายนะ!
- เปิดพื้นที่การเรียนรู้ พัฒนาทักษะดิจิทัล ด้วย ‘ห้องเรียนเด็กล้ำ-ห้องเรียนครูล้ำ’
- ‘ดีป้า’ ผนึกทุกภาคส่วน ลุยแก้ปัญหา-ขับเคลื่อน ‘เมืองอัจฉริยะ’
