ในยุคที่ดิจิทัลเข้ามา disrupt ชีวิตผู้คนทั่วโลกอย่างเต็มกำลัง เทคโนโลยีเปรียบเสมือนหนึ่งในปัจจัย 4 ของชีวิตประจำวันของผู้คนในสังคม วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป นำมาซึ่งความท้าทายให้กับทุกอุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมความงาม
โยฮาน ซอมเซยย์ รองประธานกรรมการบริหาร ลอรีอัล กรุ๊ป ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เปิดเผยข้อมูลอนาคตตลาดความงาม และก้าวต่อไปขององค์กรในยุคดิจิทัล ในการบรรยายพิเศษ ให้กับนักศึกษาธรรมศาสตร์ 120 คน ครั้งแรกในประเทศไทย
6 การเปลี่ยนแปลงอุตฯความงาม
การเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ ๆ ที่จะส่งผลต่ออุตสาหกรรมความงามในระดับโลก ประกอบด้วย
1. ความคาดหวังจากผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ผู้บริโภคต่างมองหาแบรนด์ที่พร้อมจะแชร์ข้อมูลอย่างโปร่งใสมากขึ้น มองหาผลิตภัณฑ์ หรือการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของแต่ละบุคคล
2. การก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ การแชร์ข้อมูลด้านการใช้งานจริง วิดีโอรีวิวสินค้า หรือข่าวสารต่างๆ ล้วนเป็นสิ่งผู้บริโภคต่างให้ความสำคัญก่อนเลือกซื้อสินค้า
3. การปรับกลยุทธ์ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย การเลือกซื้อสินค้าในยุคนี้ ไม่ได้อยู่ที่หน้าร้านอย่างเดียวอีกต่อไป การค้าขายบนโลกออนไลน์และออฟไลน์ เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเท่าเทียมกัน
4. การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น เมื่อมีแบรนด์ใหม่ๆ ก้าวเข้ามาในอุตสาหกรรมความงาม การแข่งขันย่อมเข้มข้นขึ้นและส่งผลให้เกิดการปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์เพื่อชนะใจผู้บริโภคเช่นกัน
5. ความคาดหวังที่เปลี่ยนไปของพนักงาน บริษัทที่มีความยืดหยุ่น มีวิถีการทำงานที่ทันสมัย และมีเป้าหมายชัดเจน คือ “องค์กรในฝัน” ของคนรุ่นใหม่
6. ความคาดหวังในนโยบายด้านความยั่งยืน ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้บริโภคและพนักงานต่างมองหา ทุกบริษัทต้องไม่ลืมบทบาทสำคัญในฐานะ Corporate Citizenship
ลอรีอัล พลิก ‘การเปลี่ยนแปลง’ เป็น ‘โอกาส’
วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป คือความท้าทายที่ส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมความงาม “ตลาดความงามโตขึ้นทุกปี นับตั้งแต่ปี 2557 ควบคู่กับกำลังซื้อของผู้บริโภคระดับกลางที่มากขึ้น เทรนด์การดูแลตัวเองและความงามที่สูงขึ้น เห็นได้จากสถิติการเข้าชมวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับความงามกว่า 4.5 หมื่นล้านครั้ง และการดาวน์โหลดแอพพลิเคชันด้านความงาม 1 พันล้านครั้ง ส่งผลให้อุตสาหกรรมความงามเป็นที่น่าจับตามอง และน่าทำงานด้วย
ลอรีอัลยกให้การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเหล่านี้ เป็นโอกาสแห่งการพัฒนาองค์กร พร้อมเดินหน้าสร้างทีมคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนความสำเร็จต่อไป โดยชูจุดแข็งในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมความงามอันดับ 1 ของโลก ที่ดำเนินธุรกิจด้านความงามเพียงอย่างเดียว ครอบคลุมแบรนด์ที่หลากหลายกว่า 34 แบรนด์ระดับโลก เป็นองค์กรใหญ่ที่มีวิถีการทำงานแบบบริษัทสตาร์ทอัพ และมีความยืดหยุ่นสูง
นอกจากนั้น ลอรีอัลยังพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการเสริมทัพผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลกว่า 1,900 คน และจัดอบรมเสริมศักยภาพด้านดิจิตอลให้กับพนักงานกว่า 19,000 คนทั่วโลก
ปัจจัยเหล่านื้ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและเป็นโอกาสสำคัญของคนรุ่นใหม่ ที่จะก้าวเข้ามาร่วมงานกับบริษัทและขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน
“คนรุ่นใหม่เป็นผู้ที่พร้อมจะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่โลกใบนี้ พวกเขาอยู่ในวัยที่กล้าเสี่ยง และท้าทายตัวเองอยู่ตลอดเวลา ตรงกับวัฒนธรรมองค์กรของลอรีอัล ที่ไม่เคยหยุดพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อผู้บริโภค เราเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่”
