ไม่เฉพาะสำนักข่าวในประเทศไทยที่สถานการณ์ไม่สู้ดี แต่ในประเทศอย่างออสเตรเลีย ล่าสุดมีรายงานว่า ตำแหน่งงาน “นักข่าว” ในออสเตรเลียนั้นหายไปประมาณ 3,000 คนในช่วง 10 ปีมานี้ ซึ่งสหภาพนักข่าวของออสเตรเลียมองว่า สาเหตุสำคัญคือการเข้ามาของแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น เฟซบุ๊ก และกูเกิล
โดยธุรกิจหนังสือพิมพ์ในออสเตรเลียมีรายงานว่าได้รับผลกระทบมากที่สุด จากเดิมที่เคยมีพนักงาน 23,472 คนในช่วงปี 2553 – 2554 ปัจจุบัน ธุรกิจหนังสือพิมพ์ในออสเตรเลียเหลือคนทำงาน 14,678 คนเท่านั้น (ตัวเลขล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายน 2560) และถึงแม้ธุรกิจสื่อจะก้าวไปสู่ดิจิทัลเพิ่มขึ้น แต่รายได้ก็ไม่เพียงพอจนทำให้ผลประกอบการของสื่อนั้นขาดทุนและอยู่ไม่ได้ในที่สุด
ขณะที่บริษัทเช่น อัลฟาเบ็ท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลนั้น ตัวเลขรายได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้ อยู่ที่ 120,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากค่าโฆษณา ส่วนเฟซบุ๊ก รายได้ในปี 2560 ก็อยู่ที่ 40,000 ล้านดอลลาร์ และรายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าโฆษณาเช่นกัน แต่หากย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน จะพบว่าทั้งสองแพลตฟอร์มแทบไม่มีตัวตนในตลาดโฆษณาของออสเตรเลีย
รูเพิร์ต เมอร์ดอค ผู้บริหารของ News Corporation เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า กูเกิลและเฟซบุ๊กควรที่จะจ่ายเงินเป็น “ค่าเนื้อหา” ให้กับธุรกิจสื่อ เพื่อแลกกับการนำเนื้อหาเหล่านั้นมานำเสนอบนแพลตฟอร์มของตนเอง เพราะมองว่า การปล่อยให้สำนักข่าวลงทุนจ้างนักข่าวไปทำข่าว แต่สุดท้ายก็ถูกแพลตฟอร์มดิจิทัลนำผลงานของพวกเขาไปเผยแพร่ใหม่ให้กับลูกค้าของตัวเองบนหน้าฟีดเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม
อย่างไรก็ดี สถานการณ์นี้ หากมองจากฝั่งบริษัทเทคโนโลยีอาจพบว่ามีความเห็นตรงข้ามกัน เพราะปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่า ในวันที่ผู้บริโภคก้าวขึ้นสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่มีโซเชียลมีเดีย หรือเสิร์ชเอนจินคอยเป็นตัวกลาง บางทีผู้บริโภคกับสื่อก็อาจไม่ได้พบเจอหรือมีความใกล้ชิดกันอีกก็เป็นได้ อีกทั้งการเลิกอ่านหนังสือพิมพ์ และหันมาอ่านสื่อต่าง ๆ ผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วไป ไม่เฉพาะประเทศออสเตรเลียหรือประเทศไทย การที่สื่อขึ้นไปอยู่บนแพลตฟอร์มดิจิทัลจึงเท่ากับขยายโอกาสในการสร้างฐานแฟนคลับใหม่ ๆ แทนที่จะจำกัดอยู่แค่ในประเทศตัวเองด้วย
โดยรัฐบาลออสเตรเลียได้ถูกธุรกิจสื่อยักษ์ใหญ่เรียกร้องให้ลงมาสอบสวนถึงกรณีดังกล่าว และในสัปดาห์นี้ ทางคณะกรรมการผู้บริโภคและการแข่งขันของออสเตรเลีย (Australian Competition and Consumer Commission : ACCC) ก็จะแถลงรายงานเบื้องต้นที่ทางคณะกรรมการพิจารณาออกมาแล้วว่า แพลตฟอร์มดิจิทัลเหล่านี้เข้ามาแข่งขันอย่างเป็นธรรมหรือไม่ในออสเตรเลีย
