Digital Economy

อีคอมเมิร์ซจีนพร้อมใจถอดสินค้า D&G หลังก่อดราม่าในจีน

ลุกลามใหญ่โตไปไกลทีเดียวสำหรับแบรนด์ Dolce & Gabbana ที่ก่อดราม่าในจีนแผ่นดินใหญ่ ล่าสุดแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดัง ทั้งทีมอลล์ เจดีดอทคอม และ Xiaohongshu ต่างถอดสินค้าแบรนด์ดังออกจากแพลตฟอร์มแล้ว

cccc 2

ดราม่าครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อคลิปวีดิโอของแบรนด์พยายามสื่อสารถึงชาวจีนด้วยท่าทีที่ไม่เหมาะสม ด้วยการให้นางแบบสาวพยายามรับประทานพิซซ่า สปาเก็ตตี้ด้วยตะเกียบ ซึ่งมีชาวจีนเข้ามาแสดงความไม่พอใจ และทำให้ Stefano Gabbana ออกมาตอบโต้อย่างเผ็ดร้อน ด้วยการกล่าวหาจีนว่า เป็นประเทศที่รับประทานเนื้อสุนัข หรือเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยอุจจาระ ซึ่งถ้อยคำเหล่านั้นได้ถูกกระจายไปอย่างรวดเร็วบนเว่ยโป๋ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีน และทำให้ชาวจีนไม่พอใจอย่างมาก

สุดท้ายแล้ว ทางแบรนด์ได้ออกมาขอโทษพร้อมกับบอกว่า แอคเคาท์ของผู้บริหารถูกผู้ไม่ประสงค์ดีเจาะระบบ และทีมงานด้านกฎหมายจะสอบสวนเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

อย่างไรก็ดี คำขอโทษนั้นอาจสายเกินไป เพราะในแง่ภาพพจน์ของแบรนด์นั้น ต้องบอกว่า D&G แทบจะต้องปิดตัวม้วนเสื่อกลับประเทศเป็นที่แน่นอนแล้ว โดยงานแฟชั่นโชว์ของบริษัทที่จะจัดขึ้นในเซี่ยงไฮ้สัปดาห์หน้าก็ถูกเซเลบริตี้ และดาราคนดังในจีนบอยคอต ไม่มาร่วมงานเป็นที่เรียบร้อย

DG

งานนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญสำหรับแบรนด์ดังจากซีกโลกตะวันตกที่มองข้ามการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะอย่าลืมว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซในจีนแผ่นดินใหญ่นั้นเป็นความหวังของแบรนด์ลักชัวรีทั่วโลก ซึ่งการถูกผู้บริโภคจีนร้องยี้เท่ากับว่าพวกเขาตัดโอกาสการเข้าถึงลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงไปโดยปริยาย

ปัจจุบันตัวเลขจาก Bain & Company พบว่า จีนมีส่วนแบ่งตลาด 33% ในสินค้าลักชัวรีทั่วโลก และคาดว่าจะก้าวขึ้นไปมีบทบาท 46% ภายในปี 2025

ในตอนนี้หากเสิร์ชหาสินค้า Dolce & Gabbana ในทีมอลล์ เจดีดอทคอม ฯลฯ จะไม่พบสินค้าเลยสักชิ้นเดียว และแต่ละแพลตฟอร์มก็ไม่มีคำอธิบายใด ๆ ออกมาด้วย

นี่อาจเป็นกรณีศึกษาที่ดีสำหรับผู้นำบริษัท และผู้นำของประเทศต่าง ๆ ที่ยังต้องพึ่งพาเงินรายได้จากแดนมังกรมาหล่อเลี้ยงว่า การไม่รู้จักเอาใจเขามาใส่เรานั้น สุดท้ายอาจทำให้สถานการณ์ของบริษัทเข้าขั้นย่ำแย่ก็เป็นได้

Avatar photo