Digital Economy

8 เบื้องหลัง ทัพ ‘เจดี เซ็นทรัล’ บุกไทย

นายวินเซนต์ หยาง
นายวินเซนต์ หยาง

จากที่ทดลองเปิดให้บริการแบบซอฟท์ลอนช์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา วันพรุ่งนี้ (28 กันยายน 2561) ก็จะเป็นวันครบรอบ 1 ปีที่เซ็นทรัลกรุ๊ป และเจดีดอทคอมประกาศร่วมทุนภายใต้ชื่อ ‘เจดีเซ็นทรัล’ แล้ว และเป็นวันดีเดย์ที่ เจดี เซ็นทรัล ประกาศยกทัพบุกตลาดอีคอมเมิร์ซประเทศไทยอย่างเป็นทางการด้วย

แต่การร่วมทุนเพื่อบุกตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในครั้งนี้ ถือว่าค่อนข้างแตกต่างเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น ๆ ที่เคยเปิดตัวในตลาดไทยก่อนหน้า นายวินเซนต์ หยาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจดีเซ็นทรัล ได้เล่าย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งจีนและไทยเริ่มต้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซในเวลาไล่เลี่ยกัน คือช่วงปี 2551 (ค.ศ. 2008) แต่ปัจจุบัน มูลค่าของตลาดอีคอมเมิร์ซจีนได้เติบโตขึ้นหลายเท่า อีกทั้งยังมีนวัตกรรมมากมายเข้ามาใช้งาน เช่น การใช้โดรนจัดส่งสินค้า หรือการสร้างโกดังสินค้าที่ทำงานได้เองโดยอัตโนมัติ ขณะที่ประเทศไทยยังไม่สามารถเติบโตจากเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาเท่าไรนัก

“ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2561 ยังเผชิญปัญหาเดียวกันกับตลาดอีคอมเมิร์ซจีนเมื่อ 10 ปีก่อน นั่นคือ เต็มไปด้วยสินค้าปลอม, การจัดส่งใช้เวลาหลายวัน, มีความไม่สะดวกในการชำระเงิน และที่สำคัญคือ ผู้บริโภคไม่มีความเชื่อมั่นในการซื้อสินค้าออนไลน์”

จากปัญหาด้านบน การเข้ามาทำตลาดไทยของเจดีดอทคอมจึงเป็นสิ่งที่วินเซนต์ หยางบอกว่า จะแตกต่างจากตลาดอื่น ๆ ทั่วโลกที่เจดีดอทคอมเคยไปทำมา และมีการเตรียมการเพื่อสร้างความแตกต่างดังต่อไปนี้

เบื้องหลังที่ 1 ทีมงานกว่า 1,000 ชีวิต

วินเซนต์ หยาง เล่าว่า วันแรกของการทำงานในประเทศไทย เจดีเซ็นทรัล ไม่มีแม้ออฟฟิศ และป้ายชื่อสำนักงาน โดยมีพนักงานนั่งทำงานรวมกันบนโต๊ะทั้งสิ้น 16 ชีวิต ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 50% แต่ภายใน 1 ปี เจดีเซ็นทรัลมีพนักงานกว่า 1,000 คน ในจำนวนนี้เป็นพนักงานขนส่งสินค้ากว่า 600 คน และ 98% ของพนักงานเป็นคนไทย

เบื้องหลังที่ 2 มุมมองที่จะพิชิตตลาดไทย

มุมมองที่เจดีเซ็นทรัลมองตลาดอีคอมเมิร์ซไทยก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากคู่แข่ง โดยวินเซนต์ หยางบอกว่า ในขณะที่ตัวเลขต่าง ๆ ชี้ว่า พฤติกรรมของคนไทยในการช้อปบนโลกออนไลน์นั้น สามารถใช้โซเชียลมีเดียเป็นตัวโน้มน้าวได้ และคนไทยก็ชอบของถูก แต่สิ่งที่เจดีเซ็นทรัลมากไปกว่านั้นคือ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ให้บริการในไทยที่ผ่านมาไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคได้ เมื่อมุมมองต่าง การทำงานจึงต่างด้วย โดยซีอีโอเจดีเซ็นทรัลบอกว่า จะไม่เร่งให้พนักงานทำยอดแต่ภารกิจของพนักงานคือการแก้ปัญหาให้ลูกค้าเป็นหลัก เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจกับแพลตฟอร์ม และกลับมาซื้อซ้ำนั่นเอง

เบื้องหลังที่ 3 นำไปสู่โลโก้ “จอย”

ภาพยนตร์โฆษณาของ “จอย” สุนัขสีขาวหัวโต ซึ่งเป็นโลโก้ของเจดีเซ็นทรัลถูกปล่อยออกมาได้พักใหญ่แล้ว และสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้ไม่น้อย จอยถูกใช้เป็นตัวแทนของความซื่อสัตย์ และความเป็นเพื่อน แถมวินเซนต์ หยาง ยังทราบด้วยว่า คนไทยรักสุนัขมาก จึงมองว่าจอยนี่แหล่ะจะเป็นอีกหนึ่งแม่ทัพที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้บริการได้ในอนาคต

JD Central
รถจัดส่งสินค้าอัตโนมัติ

เบื้องหลังที่ 4 คอยพบเทคโนโลยีอัจฉริยะ

การมาถึงของเจดีเซ็นทรัล ไม่ได้มาเฉพาะเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชัน หากยังมาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัยอีกมากมาย ทั้งเอไอ, บิ๊กดาต้า, หุ่นยนต์จัดการคลังสินค้าอัตโนมัติ (Autonomous Warehouse Robots) ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่คลังสินค้าได้ถึง 500% หรือหากใครได้ไปเดินชมงาน Digital Thailand Big Bang 2018 ก็จะพบว่า เจดีเซ็นทรัลนำยานยนต์ส่งสินค้าไร้คนขับ (Autonomous Delivery Vehicle) มาจัดแสดงเอาไว้เช่นกัน ซึ่งยานยนต์ตัวนี้ก็มีแผนจะวิ่งส่งสินค้าในประเทศไทยด้วยในอนาคตอันใกล้

เบื้องหลังที่ 5 คลังสินค้าจะเพิ่มเป็น 5 แห่ง

ปัจจุบัน เจดีเซ็นทรัลมีคลังสินค้าทั้งสิ้น 2 แห่งที่รองรับการจัดส่งสินค้าภายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่บริษัทวางแผนจะสร้างเพิ่มอีก 3 แห่งภายในปีนี้ โดยจะตั้งอยู่ในภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ ภาคใต้ และภาคอีสาน สำหรับรองรับการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ

central.co.th
central.co.th

เบื้องหลังที่ 6 เสริมแกร่งเซ็นทรัลออนไลน์

ในจุดนี้ วินเซนต์ หยาง และโชดก พิจารณ์จิตร ประธานบริหารฝ่ายบริหารสินค้าของเจดีเซ็นทรัล บอกว่า JD.co.th กับ Central.co.th คือพี่น้องกัน โดย JD.co.th เปรียบได้กับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อีกห้างหนึ่ง ที่ห้างเซ็นทรัลสามารถเข้าไปเปิดหน้าร้านของตัวเองได้ภายในนั้น (ปัจจุบันมีแบรนด์ในเครือเซ็นทรัล เช่น ท็อปส์, พาวเวอร์บาย, ลุคสิ เข้าไปเปิดหน้าร้านอยู่ใน JD.co.th แล้ว) จึงถือว่ามาเพื่อส่งเสริมกันและกันมากกว่า นอกจากนี้ Central.co.th ก็จะมีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะของเซ็นทรัล และไม่จำเป็นต้องนำสินค้าทุกชิ้นบน Central.co.th ไปขายบน JD.co.th แต่อย่างใด

เบื้องหลังที่ 7 จุดขายคือของแท้ 100%

วินเซนต์ หยาง ประกาศว่า สินค้าบนแพลตฟอร์มเจดีเซ็นทรัลมาจากแบรนด์ และผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น โดยหมวดหมู่ที่ได้รับความนิยมประกอบด้วย สินค้าประเภทโทรศัพท์มือถือ อาหาร ของใช้ภายในบ้าน และแฟชั่น ดังนั้น หากมีการจัดส่งสินค้าปลอมให้ผู้บริโภค ทางแพลตฟอร์มจะจ่ายเงินชดใช้เป็น 3 เท่าของมูลค่าสินค้า

นายโทนี่ หยาง, นางสาวรวิศรา จิราธิวัฒน์ และนายโชดก พิจารณ์จิตร
นายโทนี่ หยาง, นางสาวรวิศรา จิราธิวัฒน์ และนายโชดก พิจารณ์จิตร

เบื้องหลังที่ 8 เห็นของภายใน 1 วัน

บริการจัดส่งสินค้าของเจดีเซ็นทรัลเป็นแบบ Same Day Delivery นั่นคือ หากสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ในตอนเช้า จะได้รับภายในเย็นวันนั้น โดยวินเซนต์ หยางระบุว่า ความสามารถของระบบที่เจดีเซ็นทรัลมีสามารถรองรับการสั่งซื้อของลูกค้าได้มากถึง 25 ล้านคนภายในปี 2562 ขณะที่ผู้ให้บริการจัดส่งสินค้านั้น นอกจากจะมีทีมเดลิเวอรี่ของเจดีเซ็นทรัลเองแล้ว ยังมีพาร์ทเนอร์อย่างเคอรี่เอ็กซ์เพรส และดีเอชแอลด้วย

ทั้งหมดนี้คือการตลาดสไตล์เจดีเซ็นทรัล ที่ไม่เหมือนใคร และมองว่า จะสามารถสร้างความเชื่อใจให้กับแพลตฟอร์ม ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตด้านยอดขายและผู้ใช้บริการได้อย่างแท้จริง โดยเจดีเซ็นทรัลระบุว่า ตั้งเป้าจะมีสินค้าบนแพลตฟอร์มให้ได้ 10 ล้าน SKU ภายในสิ้นปีนี้

Avatar photo