มีผลการศึกษาที่น่าสนใจจากฟอร์เรสเตอร์ชิ้นหนึ่งมาฝากกัน นั่นคือการพบว่า นักการตลาดเตรียมเทงบให้กับวิดีโอออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ปัจจุบันหันมาเลือกชมรายการตามเวลาที่ตนเองสะดวก บนแพลตฟอร์มที่ตนเองสะดวก และบนอุปกรณ์ที่พวกเขาอยากจะใช้
โดยมีการคาดการณ์ว่า ผู้ชมคอนเทนต์วิดีโอออนไลน์นั้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านคนในปีนี้ ส่วนผู้ชมรายการทีวีจะเพิ่มขึ้นเป็น 258 ล้านคน ด้วยเหตุนี้ งบด้านโฆษณาที่จะทุ่มไปกับคอนเทนต์วิดีโอจึงคาดว่าจะเติบโตขึ้นจาก 91,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ เป็น 1.03 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2566 ด้วย
งานวิจัยนี้ชี้ด้วยว่า เด็กเจน Z คือกลุ่มที่มีการใช้งานบริการสตรีมมิ่งวิดีโอออนไลน์มากที่สุด หรือ 4.2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และเป็นกลุ่มที่ไม่โมโหหากจะมีโฆษณาเข้ามาให้ได้เห็นกันบ้าง ตราบเท่าที่โฆษณานั้น ๆ มีความเกี่ยวข้องกับพวกเขา
นอกจากนั้น ฟอร์เรสเตอร์ยังพบว่า คนกลุ่มนี้ถึง 2 ใน 3 ยินดีที่จะชมโฆษณา หากว่ามันทำให้เขาเข้าไปดูคอนเทนต์ได้ฟรี
โดยต้องยอมรับว่า ตั้งแต่เข้าปี 2561 มานั้น คอนเทนต์ประเภท “ดูฟรีแต่มีโฆษณาสนับสนุน” เติบโตอย่างมาก โดยมีผู้ที่ยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวแล้วเกือบ 194 ล้านคนทั่วโลก แต่ฟอร์เรสเตอร์ก็คาดการณ์เอาไว้ด้วยว่า ปรากฏการณ์เช่นนี้จะอยู่ไม่ยาวนัก เพราะผู้บริโภคมีแนวโน้มว่าจะเบื่อโฆษณาที่แทรกเข้ามาและหนีไปอยู่บนแพลตฟอร์มรับชมคอนเทนต์แบบมีค่าใช้จ่ายในที่สุด ดังนั้นแบรนด์ใดที่ใช้กลยุทธ์นี้อยู่ อาจต้องเตรียมหาทางหนีทีไล่เอาไว้ให้ดี
