วันก่อนมีโอกาสไปเยือน “บ้านฉาง” ทำเลยุทธศาสตร์การพัฒนาที่ดินตั้งแต่สมัย โครงการอีสเทอร์นซีบอร์ดที่พัฒนากันมากว่า 30 ปี นับตั้งแต่ปี 2530 วันนี้ “บ้านฉาง” ก็ยังคงเป็นเมืองยุทธศาสตร์การพัฒนาที่น่าสนใจของภาคตะวันออก แม้การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ยังมีไม่มากนัก
ข้อมูลจาก บริษัท อีสเทอร์นสตาร์ เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) ระบุว่าการพัฒนาที่พักอาศัยแนวราบ ในบ้านฉางมีเพียง 1,100 ล้านบาท/ปี
แต่ถึงกระนั้น “บ้านฉาง” ก็ยังมีความน่าสนใจ เหตุผลหนึ่งคือการเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ เพราะอยู่ใกล้สนามบินอู่ตะเภา ที่กำลังได้รับการพัฒนาเป็นสนามบินนานาชาติ ตามแผนพัฒนา 3 เฟส ตั้งแต่ปี 2560-2576 บนพื้นที่กว่า 5,468 ไร่
- เฟสแรกจะรองรับผู้โดยสาร 5 ล้านคน/ปี
- เฟสที่สอง จะรองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคน/ปี
- เฟสที่สามจะรองรับผู้โดยสารได้ 60 ล้านคน/ปี
แผนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา เป็นหนึ่งในเมกะโปรเจคที่จะทำให้พื้นที่ภาคตะวันออก ได้รับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม
แน่นอนว่า “บ้านฉาง” ย่อมเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่จะได้รับอานิสงก์ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ที่นอกจากสนามบินอู่ตะเภาแล้ว การพัฒนารองรับอีอีซี ยังมีอีกหลายโครงการสำคัญ ประกอบด้วย
- โครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง หรือที่เรามักเรียกว่ารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดบริการได้ในเดือนกันยายน 2566 โครงการนี้ลงทุนกว่า 4,471 ล้านดอลลาร์
- โครงการท่าเทียบเรือน้ำลึกแหลมฉบัง เงินลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์
- โครงการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ตามแผนพัฒนาปี 2560-2576
- โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ลงทุน 290 ล้านดอลลาร์
- โครงการมอเตอร์เวย์มาบตาพุด ลงทุน 580 ล้านดอลลาร์ คาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดให้บริการในปี 2562
- โครงการรถไฟทางคู่ เชื่อมโยงท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ลงทุน 1,822 ล้านดอลลาร์
ทั้งหมดนี้ คือโครงการที่ประกาศแผน และมีการลงทุนที่ชัดเจน จะเป็นหัวจักรสำคัญในการพัฒนาอีอีซี ให้เกิดขึ้นได้ตามเป้าหมาย เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะนำการพัฒนาใหม่ๆ เข้าสู่ทำเลพื้นที่ภาคตะวันออก
ทำเล “บ้านฉาง-ระยอง” เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ยุทธศาสตร์ซึ่งกว่า 30 ปีของการพัฒนาอีสเทอร์นซีบอร์ดที่ผ่านมา บ้านฉาง อาจไม่เติบโตมากนัก แต่ก็เป็นแหล่งพักอาศัยของกลุ่มผู้ทำงานในเขตนิคมอุตสาหกรรมระยอง
แต่สำหรับการพัฒนาอีอีซี และเมกะโปรเจคที่จะนำการพัฒนาสำคัญๆ เข้ามาในพื้นที่เชื่อว่า จะนำพาการพัฒนาบ้านฉาง และระยองให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว หากทุกโครงการในแผนพัฒนาอีอีซีเดินหน้าได้ตามเป้าหมาย
หวังว่าความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลังการเลือกตั้งปีหน้า จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา รัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง จะสานต่อโครงการที่รัฐบาลชุดปัจจุบันวางรากฐานไว้ เพื่อสืบต่อการพัฒนาให้ได้ตามเป้าหมาย
ในทางกลับกัน หากต้องยกเลิกหรือล้มโครงการใดโครงการหนึ่งลงไป โอกาสที่จะสร้างการเติบโตให้กับพื้นที่ภาคตะวันออกก็คงไม่เกิดขึ้น จะเสียโอกาสในการพัฒนาไปอย่างน่าเสียดาย