COLUMNISTS

Benz จัดหนักรถไฟฟ้ารุ่นใหญ่ชั้น S Class ทวงบังลังค์คืนจากเทสล่า Model S

Avatar photo
แอดมินเพจ Tesla News Thailand นำเสนอเรื่องราวบริษัทเทสล่า และความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ยุคใหม่ และพลังงานไฟฟ้ายั่งยืน [email protected]
144

ภายในปี 2020 ค่ายรถหรูอย่าง Benz เตรียมปล่อยรถไฟฟ้าสุดหรูเทียบชั้น S Class มาลงตลาดต่อสู้กับเจ้าตลาดรถไฟฟ้าอย่างเทสล่า รวมทั้งคู่แข่งร่วมสัญชาติเยอรมนีไม่ว่าจะเป็น Audi ในรุ่น A8 หรือ Jaguar XJ

Benz จัดหนักรถไฟฟ้ารุ่นใหญ่ชั้น S Class

ตามข้อมูลซึ่งได้รับเปิดเผยจาก Michael Keiz ผู้ดูแลโปรเจครถขนาดใหญ่ได้ระบุว่า Benz จะมีรถหรูขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าขนาดตัวถังเท่ากับรถในชั้น S Class แต่จะไม่ใช่รถ S Class ที่เอาไปติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นกลยุทธในการทำตลาดที่แตกต่างไปจากคู่แข่งที่ระบุไว้ข้างต้น เป็นการใช้ตัวถังหน้าตาเดียวกันในคลาสในการทำตลาดรถไฟฟ้า

แนวทางการทำตลาดของ Benz คือการสร้างการรับรู้ของผู้บริโภคเรื่องยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ที่ได้รับออกแบบใหม่ทั้งหมดว่าจะเป็นรถตระกูล EQ ซึ่งจะมีรูปทรงหน้าตาที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง โดยมีรถต้นแบบที่ได้รับเปิดตัวออกสู่สาธารณะแล้วหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น EQ A รถรูปทรงแฮทแบ็ค หรือ EQ C ซึ่งเป็นรถทรง SUV ขนาดกระทัดรัด รวมทั้งรถแบบเก๋งที่จะมีขนาดพอๆ กับ C Class

โครงสร้างที่จะนำมาใช้สำหรับรถตระกูล EQ ทั้งหมดจะมีสถาปัตยกรรมแบบที่เรียกว่า MEA ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นในการปรับใช้กับตัวถังหลายๆ แบบ และจะถูกนำมาใช้ในรถรุ่นสุดหรูไฟฟ้าที่จะมีชื่อว่า EQ S ด้วย

มองในแง่ของการออกแบบรถเก๋งทั่วไปนั้น เมื่อถึงเวลาที่ต้องคิดออกแบบให้เป็นรถไฟฟ้าแล้วแนวทางที่ใช้ก็จะแตกต่างกันออกไป

Michael กล่าวว่าด้วยวิธีการออกแบบที่จำเป้นจะต้องเอาอุปกรณ์ทั้งหลายติดตั้งไว้ที่พิ้นรถ และต้องขยายฐานล้อให้ยาว บวกกับส่วนตัวถังที่เลยล้อกับล้อหลังที่สั้นทำให้การนำตัวถังรถปรกติมาปรับเปลี่ยนให้เป็นรถไฟฟ้านั้นทำได้ยาก เพราะตัวรถยนต์ที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์ทั่วไปจะมีพื้นรถที่ต่ำเกินไป

แม้ว่าสถาปัตยกรรมการออกแบบรถสำหรับ S Class ที่เรียกว่า MRA จะนำมาใช้กับขุมพลังขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าล้วนๆ ไม่ได้ แต่ก็ดีพอที่จะปรับให้เหมาะกับขุมพลังแบบปลั๊กอินไฮบริด รวมทั้งรถรุ่น CLS ที่ใช้ตัวถังแบบ MRA เช่นกันก็พร้อมจะได้รับการติดตั้งระบบปลั๊กอินไฮบริดหากตลาดมีความต้องการ

ดูจากค่ายรถใหญ่ๆ ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นทางฟากยุโรปหรือญี่ปุ่น ต่างก็ใช้ปี 2020 เป็นเหมือนจุดตั้งต้นยุคของรถไฟฟ้าทั้งสิ้น

แต่ละบริษัทก็มีแนวทางการทำตลาดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสร้างสีสันให้ชวนติดตามเป็นอย่างยิ่ง และต้องคอยจับตาดูว่าบริษัทต่างๆ จะสามารถสร้างสมดุลระหว่างเทคโนโลยีทั้งสองยุคอย่างไร เพราะมันเป็นเหมือนพิซซ่าที่ต้องขายให้เยอะที่สุด โดยต้องเลือกเอาหน้าที่ขายดีมาเป็นส่วนที่เยอะกว่า

แถมยังต้องขายแข่งกับร้านพิซซ่าเจ้าอื่นด้วย ไม่งั้นพิซซ่าเจ้าใหม่อย่างเทสล่าหรือรถไฟฟ้าจากจีนก็จะกินรวบตลาดไปได้ ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเฉพาะในยุคเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับวงการมือถือหรือกล้องดิจิทัลจนเป็น case study มาแล้ว

ที่มา : https://goo.gl/6qmved