เรียบร้อยโรงเรียนจีนหลังจากชักเข้า ชักออก อยู่นาน กับรายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูก“แจ๊คพอร์ต”กับศึกซักฟอกของฝ่ายค้าน หลังจากปล่อยชื่อออกมาหยั่งเชิงเป็นระยะๆ ทำเอาหลายคนวิ่งหัวปั่นมีทั้งร้องขอ ออดอ้อนขอความเห็นใจ ให้ชื่อหลุดออกจากโผ ต่างจากตอนตั้งรัฐบาลที่ต้องการให้ติดโผ
เม้าท์กันสนั่นงานนี้ทำเอา ใครบางคน บางกลุ่มได้ เป็นกอบ เป็นกำ เชียว!! เรียกว่าจับเสือมือเปล่ากันซะอย่างนั้น ส่วนใครได้ ใครจ่ายไปบ้าง เจ้าตัวและผู้รับเท่านั้นที่จะรู้ดี
เม้าท์ต่อด้วยซ้ำว่าบางคน มี “นางนกต่อ” รับอาสาเคลียร์รายชื่อ ที่จะไม่ให้อยู่ในโผศึกซักฟอกครั้งนี้ ผลที่ออกมามีทั้ง รอดและไม่รอด คนที่รอดหมายความว่าชื่อหลุดหายระหว่างทาง ส่วนคนที่มั่นอกมั่นใจว่ารอด กลับมีชื่อโผล่แบบไม่ทันตั้งตัว ก็อย่างที่รู้ๆกัน วันนี้บางคนคงนอนกุมขมับ แต่บางคนก็รอด นอนตาหลับ หมดความวิตก มีเม้าท์กันด้วยว่าเกิดปรากฎการณ์ “หักหลัง” ขึ้น รับปากแล้วถึงเวลาทำไมได้ เพราะตั้งแต่เริ่มมีการส่งสัญญาณจะเปิดศึกซักฟอกจากฝ่ายค้าน กลายเป็นเครื่องมือต่อรองไปซะอย่างนั้น ส่วนใครที่ไม่อยากถูก “ขึ้นเขียง” ก็วิ่งพล่านไปทุกที เพื่อให้หลุดพ้นจากเกมถูกซักฟอก
คนหนึ่งที่มีชื่อติดโผอยู่ตั้งแต่วันแรกๆ ของสัญญาณการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นั่นก็คือ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนากยรัฐมนตรี แต่วันนี้ทำให้ผู้คนเกิดความสงสัยแบบอึ้งไปตามๆกัน เมื่อรายชื่อที่โผล่ออกมาไร้ชื่อไร้เงา สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ แบบเหลือเชื่อ แต่ทำไมชื่อที่ไม่ควรปรากฎน่าจะเป็น ลุงป้อม แต่สุดท้าย ลุงป้อม ก็เข้าวินจนได้ หรือว่า ลุงป้อม ถูกหักหลังอีกคน
กรณี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เม้าท์กันกระจายทำนองมี “หญิงใหญ่” อาสากาวใจสะกิตฝ่ายค้านลบชื่อออก เช่นเดียวกับชื่อ อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก่อนวันยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงไม่นาน เรียกรอดอย่างเหลือเชื่อจริงเท็จแค่ไหนไม่รู้ ….รู้แต่ว่าเขาเม้าท์กันสนั่น
แต่อีกกระแสบอกว่า ฝ่ายค้านอาจมีข้อมูลไม่แน่น ไม่กล้าพอที่จะยื่นซักฟอกตรงๆ ไว้แบบว่าหวัง ตีวัวกระทบคราด เพราะก่อนหน้านี้มีชื่ออยู่เคียงข้าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอยู่ตลอด
ศึกซักฟอกรอบนี้คงหนีไม่พ้น ปัญหาเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ และหมักหมมมาหลายปี ปัญหาเอื้อธุรกิจเจ้าสัวทั้งหลาย อย่างนี้ใครจะลุกขึ้นชี้แจง เพราะชื่อรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจหลุดโผโดยสิ้นเชิง หากใช้จังหวะลุกขึ้นชี้แจงแทนมีหวังประท้วงกันยกใหญ่
เอาละ..เวลานี้ใครรอดจากโผรายชื่อศึกซักฟอกก็สบายตัวไประดับหนึ่ง แต่ใครที่ยังมีรายชื่อติดอยู่ก็ต้องว่ากันไป ยังไงก็เตรียมข้อมูลให้พร้อมก็แล้วกัน ที่สำคัญอย่าลืม ลับปากผู้กล้าหาญเอาไว้ปะทะกับพรรคฝ่ายค้านก็แล้วกัน สำคัญที่สุด ทำยังไงรวบรวมมือให้ได้มากที่สุด ณ วันลงคะแนน หากใคร การ์ดตก มีหวังล้มตึงกลางสภา ยิ่งกว่านั้นหลังศึกซักฟอกเราจะเห็นการปรับครม.ขึ้นอีกระลอก งานนี้เรียกว่าใครใหญ่ใครอยู่
ฉะนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 6 ผู้โชคดี ทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีก 5 คน เราอยากเห็นฝ่ายค้านใช้ข้อมูลการอภิปรายที่สร้างสรรค์ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อย่างน้อยถ้ามีข้อมูลที่ดีจริงประชาชนคนไทยทั้งประเทศจะได้รู้และเข้าใจ อย่าอภิปรายแบบ “ตีกัน” หรือฉวยโอกาสเล่น “สำบัดสำนวน” ให้เสียเวลาเปล่า ให้สมกับราคาคุยที่บอกว่ามีข้อมูล มีหมัดเด็ดก็แล้ว พูดกันหน้าหูเหลือเกินว่า ฝ่ายค้านมี “ของดี” จากเมืองนอกเมืองนา เป็นตัวช่วยในศึกซักฟอกครั้งนี้ ยังไงมีจริงก็เอาให้เต็มที่ก็แล้วกัน
ฉะนั้นผู้ที่มีรายนามชื่อดังต่อไปนี้
1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
2. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
3. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
4. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
5. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี
6. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ยังพอมีเวลาทำการบ้านกว่าที่ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประชุม ส.ส. เพื่อพิจารณาญัตติดังกล่าว อย่าลืมระหว่างนี้ห้าม “เกาเหลากับพรรคร่วมรัฐบาล” ในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา เพราะตอนนี้ดูเหมือนยังไม่ค่อยจะไปในทิศทางเดียวกันสักเท่าไหร่ มีทั้งใส่เกียร์เดินหน้า และเหยียบเบรค กันอยู่มิฉะนั้นปริมาณมือที่จะช่วยในสภาอาจจะหดหายไปได้นะจะบอกให้
ยิ่งกว่านี้ใครสัญญิงสัญญา หรือบนบาน อะไรกันไว้ หลังศึกซักฟอกก็อย่าลืม แก้บนด้วยก็แล้วกัน !!!
