วันหยุดสัปดาห์นี้ ( 16-17 พ.ย.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงใต้แบบครึกโครม ไปยังพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งเวทีใหญ่แถลงนโยบายพลังงาน มีคนเข้าร่วมไม่น้อย มีส.ส. ภาคใต้ ของพรรคพลังประชารัฐเป็น Backup ทั้ง นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จังหวัดนครศรีธรรมราช นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส. เขต 7 จังหวัดนครศรีธรรมราช นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส. เขต 1 จังหวัดตรัง และร้อยตำรวจเอก อรุณ สวัสดี ส.ส. เขต 4 จังหวัดสงขลา
เขาได้ไปเยี่ยมพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ที่ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง บ้านหัวคู ตำบลสระแก้ว อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยครั้งนี้เขาเบิกโรง ด้วยปาฐกถาหัวข้อ ” น้ำมัน B10 น้ำมันบนดิน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก”
โดยย้ำเรื่องการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลผสมในน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นมาตามลำดับ เป็น B10 ซึ่งได้ประกาศให้เป็นดีเซลพื้นฐานของประเทศแทน B7 นับจากวันที่ 1 มกราคม 2563 และให้ปั๊มน้ำมันทุกแห่ง ขาย B10 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมปีหน้าเป็นต้นไป ขณะเดียวกันก็ย้ำว่ารถเก่า และรถยุโรปที่ใช้ B10 ไม่ได้ ยังให้มีการขายน้ำมันดีเซล B7 รองรับไว้ด้วย รวมถึง มี B20 เป็นทางเลือกสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่
กลไกสำคัญของนโยบายนี้ ก็คือ บริษัท ปตท.น้ำมัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ ที่จะมาช่วยโปรโมทการใช้ B10 ให้เพิ่มขึ้น
นอกจากช่วยเหลือเกษตรกร และผลักดันราคาปาล์มให้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืนแล้ว สิ่งที่จะได้รับจากงานส่งเสริมไบโอดีเซล รวมไปถึงนโยบายนำน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ไปเผาในโรงไฟฟ้าบางปะกง เป็นระยะๆ ที่จะมีอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหาซีพีโอล้นตลาด
“การช่วงชิง” เรื่อง “ช่วยชาวสวนปาล์ม” จากกระทรวงพาณิชย์ก็น่าจะเป็นอีกเป้าหมายหนึ่ง เพื่่อกินพื้นที่ทางการเมืองจากพรรคการเมืองเจ้าถิ่น แม้กระทรวงพาณิชย์จะขอรุกบ้าง ออกนโยบายประกันรายได้ให้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม กก.ละ 4 บาทบนเงื่อนไขที่กำหนดมีผล 1 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่เห็นท่ากระทรวงพลังงานจะมีแต้มต่อที่สามารถเดินเกมรุกได้อย่างต่อเนื่อง
จากกลไกในมือที่พร้อมสรรพ ทั้งนโยบายพลังงานเรื่อง “การส่งเสริมไบโอดีเซล” โดยมีปั๊มปตท.มาเป็นแรงหนุน รวมไปถึง “โรงไฟฟ้าชุมชน” จากการนำวัสดุเหลือทิ้งจากสวนปาล์มมาทำเป็นเชื้อเพลิง ก็คงจะเขัาหลักเกณฑ์ เฉพาะ “โรงไฟฟ้าชุมชน” ก็เล่นนำไปได้หลายตา เพราะตอนนี้หัวบันไดกระทรวงพลังงานก็ไม่เคยแห้งนับจากผุดไอเดียนี้ขึ้น เพราะแต่ละก๊วนก็อยากทำบ้าง!
งานนี้พรรคเจ้าพื้นที่ นั่งไม่ติด ต้องง่วนผลัดกันขึ้นลง ตรวจงานในพื้นที่เดียวกันและในช่วงเวลาเดียวกัน ป้องกันดินแดน ทั้งการตรวจติดตามความคืบหน้าแผนพัฒนาและจัดระบบจราจรท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ของนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และการเปิดเครื่องฉายรังสีที่โรงพยาบาลมะเร็งสุราษฎร์ธานี ของดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
…ดังนั้นนอกจากติดตามภารกิจช่วย “ชาวสวนปาล์ม” จากนโยบายพลังงานแล้ว ก็อย่าลืม ลุ้นเป้าหมายการกินพื้นที่ทางการเมืองทางภาคใต้ นำโดย “พี่สน” ไปด้วย ว่าจะประสบผลสำเร็จมากน้อยแค่ไหน งานนี้ติดตามได้ สนองได้ แต่ใครอย่าได้หือ ! เพราะน้ำกำลังเชี่ยว