ปมชิงเก้าอี้ “ประธานรัฐสภา” ฤๅ… จุดเปลี่ยนจัดตั้งรัฐบาล “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จริงหรือไม่
โล่งอกไปอีกเปราะ บรรดาว่าที่ส.ส.ทั้งหลาย หลังจากที่ สำนักงานคณะกรรมกรการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ตรวจสอบความถูกต้องการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ครบทั้ง 400 เขตแล้ว ประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว ทั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งทั่วประเทศรวม 400 คน และจำนวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ตัวเลขพรรคไหนได้ส.ส.เท่าไหร่มากน้อยแค่ไหน น่าจะเป็นที่ประจักษ์กันไปแล้ว ทั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ
แต่ที่หนักอกหนักใจเวลานี้ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เขาจะใช่ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จริงหรือไม่
ด้วยเหตุที่ว่า ยังมีหลายปัจจัยที่ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ต้องผ่านขวากหนามไปให้ได้ เพื่อก้าวสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ แม้จะร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) จัดตั้งรัฐบาลกับ 8 พรรคการเมืองแล้วก็ตาม ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อาจจะไม่เป็นดั่งหวัง ไม่้ว่าจะเป็น
#ปมถือหุ้น ITV เรื่องการตรวจสอบกกต. ไม่น่าจะได้ข้อสรุปที่แท้จริง แต่โอกาสที่กกต.จะส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด
ประเด็นนี้นักวิชาการหลายคนมองว่าไม่น่าจะตื่นเต้นอะไรมากนักกับปมถือหุ้น ITV
#การยกมือโหวตหนุนจาก ส.ว. แม้การจัดตั้งรัฐบาลของ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ตอนนี้มีเสียง ส.ส.ในมือแล้ว 313 เสียง แต่การโหวตนายกรัฐมนตรี ต้องใช้เสียงมากถึง 376 เสียง ขาดอีก 63 เสียง ความหวังจึงอยู่ที่ ส.ว. ว่าจะยกมือโหวตให้หรือไม่ วันนี้ส.ว.เองก็แบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม มีทั้งสนับสนุนและไม่สนับสนุน และยังมีส.ว.ที่ยังไม่ตัดสินใจอีกจำนวนหนึ่ง
ประเด็นส.ว.วันนี้กระแสสังคมออกมาเคลื่อนไหวหนักมาก ที่จะให้ ส.ว.โหวตหนุน ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 มีทั้งเรียกร้องให้ ส.ว.เคารพเสียงประชาชน เพื่อบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ มีทั้งทวงบุญคุณเงินเดือนว่ามาจากภาษีประชาชน
ปมนี้เป็นปมใหญ่บอกเลย สำหรับ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หากทว่าเสียงในมือ 313 เสียง ยังไงก็ยังต้องอาศัยมือจากส.ว. ถ้าผ่านขวากหนามสิ่งเหล่านี้ไปได้ เก้าอี้นายกรัฐมนตรีก็อยู่ไม่ไกลสำหรับ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’
แต่หากไม่สำเร็จเกมจัดตั้งรัฐบาลเปลี่ยนทันที แน่นอนพรรคที่ได้คะแนนที่ 2 อย่างพรรคเพื่อไทยก็ต้องตีตราจองเป็นธรรมดา….. นี่คือเป้าหมายใหญ่ที่รออยู่
ก่อนหน้านี้ มีมือดีทำๅมือลั่นส่งข้อมูลยาวเหยียด ถึงความเป็นไปได้ของการจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคก้าวไกล ข้อสรุปโดยรวมระบุชัดว่า “ยากมาก จนถึง เป็นไปไม่ได้ ”
“ร้าวหนัก” สองพรรคใหญ่
ใครจะเชื่อระหว่างทาง ส.ว.ยังไม่ทันยกมือโหวต พันธมิตรจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน มีอาการแตกคอกันเสียแล้ว กับการแย่งชิงตำแหน่ง “ประธานรัฐสภา” ระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย
ช่วงที่ผ่านมาทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรครวมถึงลูกหาบ ของทั้งสองพรรค ออกมาประกาศศักดิ์ดา ชิงเก้าอี้ประธานรัฐสภากันยกใหญ่ ต่างฝ่ายต่างอ้างความชอบธรรมของตัวเอง จนทำให้ฝ่ายตรงข้ามนั่งหัวเราะร่า!!
หลายคนมองว่า ปมเก้าอี้ประธานรัฐสภา อาจเป็น “ชนวนแตกหัก” ระหว่างพรรคอันดับหนึ่งและสองอย่างก้าวไกลและเพื่อไทยก็เป็นได้ งานนี้ต้องดูกันยาวๆ ใช่ว่าเก้าอี้ตัวนี้จะดับฝัน ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หรือไม่
ดูเหมือนเกมแย่งชิงเก้าอี้ประธานรัฐสภา ระหว่างพรรคก้าวไกลกับเพื่อไทย นับวันรุนแรงขึ้นบู๊ใส่กันไม่หยุดยั้ง งานนี้บอกเลยไม่จบลงง่ายๆ หากต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันแบบนี้ นี่คือเกมการเมืองที่จะนำไปสู่การนับหนึ่งใหม่!!!
ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่สมประโยชน์กับเก้าอี้ตัวนี้ โอกาสจะตีจากแล้วไปรวมกลุ่มตั้งรัฐบาลเองก็เป็นได้ จะเข้าสูตรเกมที่อาจจะต้องดึงเอา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้าร่วม งานนี้โอกาสเกมพลิกมีสูงมาก
สอดรับกับที่ก่อนหน้านี้ มีข่าว “ลุงป้อม” เตรียมประกาศ วางมือ ทิ้งตำแหน่งหัวหน้าพรรคพปชร. สละสิทธิปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ยุทธการนี้จะทำก่อนที่ กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง หนักไปกว่านี้ก่อนประชุมโหวตเลือก ประธานรัฐสภา จะสลายพรรคพปชร. ส่งลูกหาบย้ายไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย
ปม “ลุงป้อม” วางมือ อำลาหัวหน้าพรรคพปชร. บอกเลย เรื่องจริง แต่ดันมามีข่าวรั่ว เล็ดออกไปก่อนเวลาอันควร จนทำให้คนในพปชร. บางกลุ่มโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง มันหลุดออกไปก่อนได้ยังไง มีการฟาดงวง ฟาดงาใส่กันเละ ก็เพราะ พปชร.เวลานี้มันมีหลายมุ้งเกิน!!
เมื่อข่าวรั่วออกไปก่อนเวลาอันควร ทำให้ขาใหญ่ในพปชร. เหวี่ยงใส่คนรอบข้าง หลายคนเข้าใจตรงกันว่า ภายในพรรคพปชร.คนที่กุมบังเหียนตัวจริงวันนี้ ไม่ใช่ “ลุงป้อม” แต่กลายเป็น “ลุงป๊อด” ที่เข้ามาจัดการแทน
เท่านี้ยังไม่พอยังมี “หญิงใหญ่” อีกคนที่คอยบัญชาการสั่งการอยู่ในพรรคเวลา พูดกันหนาหูพปชร.ตอนนี้มัหลายมุ้งเกิ้น!!
ส่วนประเด็นสลายพรรคพปชร. แล้วส่งลูกหาบไปฝากไว้กับพรรคเพื่อไทย อันนี้หากทำจริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะลูกหาบในพปชร. ส่วนใหญ่ก็คนคุ้นเคยจากพรรคเพื่อไทยทั้งนั้น หากจะกลับบ้านเก่าก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่สำหรับคนที่ไม่ใช่ศิษย์เก่า จำต้องตัดสินใจเอง
พูดง่ายๆ เด็กเก่าเพื่อไทยในพปชร.น่าจะมีอยู่ไม่น้อยกว่า 26-27 คน จาก 3 กลุ่มใหญ่ นั่นก็คือกลุ่มผู้กองธรรมนัส กลุ่มของสันติ กลุ่มของวราเทพ ล้วนเป็นคนคุ้นเคยกับพรรคเพื่อไทย
แม้จะยังไม่มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ก็แว่วๆ มาแล้ว งานนี้มี “งูเห่า” เกิดขึ้นแน่นอน ร่ำลือกันหนักว่า“งูเห่า”จะไหลมาจาก “สองลุง” ส่วนจะจริงเท็จแค่ไหน อันนี้ยังต้องรอลุ้นในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
สำคัญสุดเขาคนนั้นใช่ชื่อ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หรือไม่ หรือว่าเป็นคนนี้ ?????
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘พิธา’ ขยับเคลียร์ปมแย่งเก้าอี้ ‘ประธานสภา’ แนะจับมือให้มั่นคง-หารือพรรคร่วม
- ‘ไพศาล’ ฟาด ‘ประธานสภาฯ’ ต้องเป็นกลาง อย่าหวังใช้ผลักดันนโยบายตัวเอง
- ‘ประเสริฐ’ ลั่น ‘เพื่อไทย’ ขอตำแหน่งประธานสภาฯ ชู ‘ชลน่าน’ เหมาะสม
