เว็บข่าวอย่างน้อย 2 สำนักพาดหัวตรงกันว่า “ใครว่าเศรษฐกิจไม่ดี” ในรายงานข่าวเกี่ยวกับ ยอดการผลิตและขาย รถยนต์ ประเดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมาของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ที่ระบุว่า เดือนแรกของปีนี้ การผลิตรถยนต์มียอดรวม 179,595 คัน เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 8.06 %
ตัวเลขข้างต้น แยกเป็น ผลิตเพื่อการส่งออก เพิ่มขึ้น 9.61 % และ ผลิตรถยนต์นั่ง กับ รถกระบะ เพื่อจำหน่ายในประเทศที่เพิ่มขึ้น 27.77 % และ 6.47 % ตามลำดับ ซึ่งสอดรับการยอดขายรถยนต์ในประเทศช่วงเดียวกันที่มียอดรวม 78,061 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 17.3 %
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานฯ ส.อ.ท. ผู้แถลงให้ความเห็นด้วยว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะรถกระบะบ่งชี้ จากเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐและการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้น การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมและผู้บริโภคดีขึ้น “
สำหรับยอดการผลิตรถขายในประเทศ เดือนมกราคม ปีนี้มีตัวเลขรวม 78,553 คัน คิดเป็นสัดส่วน 43.74% ของการผลิตรวม เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 15.44 % ในจำนวนนี้แยกเป็นผลิตรถยนต์นั่ง 39,018 คัน เพิ่มขึ้น 27.77 % และรถปิกอัพ (กระบะ1 ตัน 37,378 คัน เพิ่มขึ้น 6.47 %)
ตัวเลขยอดผลิตและขายรถยนต์ในเดือน มกราคม ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ปีก่อน( 2561) บริษัท โตโยตามอเตอร์ ประเทศไทย สรุปข้อมูลว่า รถยนต์ทุกประเภทมี ยอดขายรวมทั้งสิ้น 1,039, 158 คัน เพิ่มจากปีก่อนหน้า(2560) 19.2 %
สถิติดังกล่าว สร้างความฮือฮาให้กับ วงการอุตสาหกรรมยานยนต์มากเพราะครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศสามารถทะลุล้านคัน โดยตัวเลขดังกล่าวแยกเป็นรถยนต์นั่ง 397,542 คัน เพิ่มขึ้น 14.8 % และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์(รวมปิกอัพ) 641,616 คัน ที่เพิ่มขึ้นถึง 22.6 %
ยอดขายรถยนต์โดยเฉพาะรถปิกอัพ ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดเกือบ 50 % ของ ตลาดรวม ที่ขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เป็นดัชนีที่สะท้อนสภาวะเศรษฐกิจที่ดีได้อีกมุมหนึ่ง เพราะรถยนต์กลุ่มนี้เกี่ยวโยงกับการทำมาหากิน
ก่อนหน้ามีการประเมินปัจจัยที่มีผลบวกต่อตลาดรถยนต์ว่า มาจากกลุ่มผู้ซื้อรถยนต์คันแรกที่ครบกำหนดจึงเปลี่ยนรถ บริษัทรถยนต์ออกรุ่นใหม่และทำโปรโมชั่นหนัก ไฟแนนซ์อนุมัติสินเชื่อง่าย จนแบงก์ชาติต้องออกมาควบคุม แต่ความต้องการจริงและความมั่นใจของผู้ซื้อว่า สามารรถหายรายได้มาผ่อนไหว เป็นปัจจัยที่สำคัญกว่า
ที่แปลกคือปกติ ยอดขายรถปิกอัพปกติจะสัมพันธ์กับราคาสินค้าเกษตร ช่วงไหนเกษตรกรรายได้ดียอดขายรถยนต์กลุ่มนี้จะขยับตาม แต่รอบนี้ราคาสินค้าเกษตรหลัก ส่วนใหญ่ถดถอย เช่นยางพารา แต่ยอดขายปิกอัพยังขยับแสดงว่ามีความต้องการธุรกิจอื่นที่สดใสเข้ามาทดแทน
ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจปีที่ผ่านมา คุณทศพร สิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สภาพัฒน์ฯ หรือ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ออกมาแถลงวันก่อนว่า สรุป ปี 2561 จีดีพี เติบโต 4.1 % ทำลายสถิติในรอบ 6 ปี โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากเครื่องจักรหลายตัว อาทิ การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ขยายตัว 4.6 % การลงทุนเอกชนขยายตัว 3.9 % (สูงสุดในรอบ 6 ปี) ส่งออกขยายตัว 7.7 % ลงทุนภาครัฐขยายตัว 3.3 % การผลิตภาคการเกษตรขยายตัว 5% การค้าส่งค้าปลีกขยายตัว 7.3 % เป็นต้น
ส่วนคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ สภาพัฒน์ฯคาด ว่า จะขยายตัวระหว่าง 3.5-4.5 % โดยฝากความหวังไว้กับ การจับจ่ายในประเทศ การลงทุนทั้งของภาครัฐและเอกชน การส่งออก และ การท่องเที่ยว เพื่อให้จีดีพีเป็นไปตามเป้า สภาพัฒน์ฯชี้ว่า การส่งออกต้องเติบโตไม่ต่ำกว่า 5 % นักท่องเที่ยวต้องเข้าไทยไม่น้อยกว่า 41 ล้านคน และการลงทุนภาครัฐต้องเป็นไปตามแผน โดยความเสี่ยงจากสงครามการค้า (สหรัฐฯกับจีน) จะส่งผลลบมากกว่าการเมือง
ดูจากตัวเลขยอดขายรถยนต์ การเติบโตของเศรษฐกิจปีที่แล้ว และคาดการณ์จีดีพีปีนี้ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่มีคำพูดกึ่งคำถามว่า “ใครว่าเศรษฐกิจไม่ดี”