Properties

‘บีทีเอส-แสนสิริ’ โชว์ฟอร์มร่วมทุน 12 โครงการกว่า 4.3 หมื่นล้าน

วรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการทั่วไป บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป
นางสาววรางคณา อัครสถาพร

หลังจากตัดสินใจร่วมทุนเป็นหุ้นส่วนพัฒนาธุรกิจอสังหาร่วมกัน ระหว่าง บมจ.แสนสิริ และบีทีเอส ในนามบริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ซึ่งเป็นการผสานจุดแข็ง ด้านการพัฒนาอสังหาแนวสูงจากแสนสิริ และจุดแข็งด้านเงินทุน และที่ดินจากบีทีเอส ทำให้บริษัทร่วมทุนมีผลดำเนินการที่รุดหน้าด้วยดี ล่าสุดบริษัทร่วมทุนมีกำไร 700 ล้านบาท ขณะที่แสนสิริ มีรายได้จากการบริหารโครงการร่วมทุน 6,000 ล้านบาท

นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการทั่วไป บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป เปิดเผยว่า หลังจากบีทีเอส และแสนสิริ ประกาศความร่วมมือในแผนระยะยาว ในการพัฒนาโครงการคอนโดในแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชน ภายใต้บริษัทร่วมทุน บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องตามแผนไปแล้ว 12 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 43,000 ล้านบาท ประสบความสำเร็จด้วยดี ผลประกอบการมีกำไร

ในปีนี้บริษัทมีแผนจะโอนคอนโดอีก 4 โครงการ มูลค่าการโอนรวม 13,000 ล้านบาท ประกอบด้วย เดอะไลน์ ราชเทวี มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เริ่มรับรู้กำไรตั้งแต่ไตรมาส 2/2561 โครงการเดอะไลน์ วงศ์สว่าง คอนโด พร้อมโอนสร้างเสร็จก่อนขายมูลค่าโครงการ 4,800 ล้านบาท ที่เริ่มรับรู้กำไรตั้งแต่ไตรมาส 1/2561 เป็นต้นมา

นอกจากนี้ยังมีคอนโดภายใต้การร่วมทุนอีก 2 โครงการใหญ่ ที่จะเริ่มโอนและรับรู้กำไรทันทีในปลายเดือนกันยายนนี้ ได้แก่ โครงการ เดอะไลน์ อโศก – รัชดา มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท และโครงการเดอะเบส การ์เด้น – พระราม 9 มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท

THE LINE Asoke Ratchada
โครงการเดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา

“บริษัทคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากการโอน 2 โครงการใหม่ในช่วงไตรมาสสุดท้าย คือ เดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา และ เดอะ เบส การ์เด้น-พระราม 9” นางสาววรางคณา กล่าวและว่า จากความโดดเด่นของทั้ง 2 โครงการ รวมถึงศักยภาพของโครงการ ซึ่งตั้งอยู่ในทำเล อโศก-พระราม 9 ที่เป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่น่าจับตามอง เป็นทำเลศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) ที่รวมการคมนาคมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ

เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจ จากการรายล้อมด้วยโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งหากพิจารณาในแง่ของการลงทุน ทั้งจากการปล่อยเช่าและการถือครองระยะยาว ทำเลนี้มีศักยภาพในแง่การลงทุนสูง จากความต้องการใหม่ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่ย้ายมาอยู่อาศัยตามแหล่งงาน โดยเฉพาะชาวจีนและชาวญี่ปุ่นที่เริ่มเห็นเพิ่มขึ้นในทำเลนี้

นางสาววรางคณา กล่าวว่า ปี้นี้เป็นอีกก้าวของความสำเร็จ ในการดำเนินธุรกิจที่เป็นการผนวกพลังระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจระยะยาว ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กันและกันอย่างยั่งยืน สำหรับความร่วมมือในช่วงที่เหลือของปีนี้ บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง เตรียมเปิดคอนโดใหม่ ร่วมกันอีก 1 โครงการ คือ โครงการเดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค มูลค่าโครงการ 4,900 ล้านบาท

โครงการนี้เปิดมาเพื่อรองรับความต้องการด้านที่อยู่อาศัย ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว เตรียมเปิดให้บริการในปี 2563 โดยจุดเด่นของโครงการ คืออยู่ติดรถไฟฟ้า 2 สาย เพียง 300 เมตรจากสถานีห้าแยกลาดพร้าว พร้อมสวนขนาดใหญ่กว่า 8 ไร่ และส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 3,000 ตารางเมตร พัฒนาภายใต้คอนเซป ‘Green is a new luxury’ จะเปิดการขายในเดือนพฤศจิกายนนี้

 

Avatar photo