ไตร-เอ็น โซลูชั่น สยายปีกเสริมแกร่ง บริษัทยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นเข้าร่วมทุน หนุนแผนขยายธุรกิจลุยงานวิศกรรมอาคารหลากโครงการ พร้อมลุยซีแอลเอ็มวี ตั้งเป้าโต 10% ทุกปี
นายกลชาญ ฉายากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไตร-เอ็น โทเอเน็ค จำกัด ผู้ให้บริการติดตั้งงานวิศกรรมระบบประกอบอาคารชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 16 ปี เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าร่วมทุนกับบริษัท โทเอเน็ค คอร์ปปอเรชั่น ยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นเข้าถือหุ้น 30% พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท ไตร-เอ็น โทเอเน็ค จำกัด และเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 80 ล้านบาท เป็นกว่า 114 ล้านบาท
สำหรับการร่วมทุนกับโทเอเน็ค คอร์ปปอเรชั่น จากญี่ปุ่น ครั้งนี้ ถือเป็นการเติบโตครั้งใหญ่ของบริษัทและเป็นโอกาสที่ดีในการเสริมความแข็งแกร่งด้านงานวิศวกรรมที่จะพัฒนาขึ้น โดยมุ่งขยายการเติบโตของการให้บริการ ไปธุรกิจอื่นๆ หรือโครงการอื่นๆ นอกจากคอนโดมิเนียม อาทิ โรงงาน, โรงแรม, โครงการมิกซ์ยูส, พื้นที่อีอีซี, อาคารสำนักงาน, โรงไฟฟ้าและพลังงานทดแทน เป็นต้น
ที่ผ่านมาบริษัทมีประสบการณ์ติดตั้งงานวิศวกรรมระบบในโครงการอสังหาริมทรัพย์กว่า 50 โครงการ และยังกำลังอยู่ระหว่างดำเนินงานอีก 10 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้เพื่อความได้เปรียบในเชิงการแข่งขัน บริษัทจึงตัดสินใจร่วมทุนกับบริษัทที่มีประสบการณ์การทำงานด้านวิศวกรรมระบบประกอบอาคารที่มีศักยภาพการทำงานที่จะสามารถมาช่วยเกื้อหนุนในการประกอบธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินธุรกิจ ให้รองรับงานได้มากขึ้นทั้งด้านเงินทุน ประสบการณ์ความน่าเชื่อถือ และยกระดับคุณภาพการบริการ และรองรับการขยายการทำงานไปสู่ธุรกิจอื่นๆ
ขณะที่บริษัท โทเอเน็ค คอร์ปปอเรชั่น ได้เปิดดำเนินการมากว่า 75 ปีในญี่ปุ่น เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ให้บริการงานออกแบบและติดตั้งระบบวิศวกรรมชั้นนำทั้งในญี่ปุ่นและยังมีบริษัทลูกและสาขาในหลายประเทศ อาทิ จีน ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และพม่า รวมทั้งยังเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น มีชื่อเสียงในงานวิศวกรรมระบบต่างๆ ทั้งออกแบบและติดตั้งในหลายรูปแบบ เช่น งานโรงงาน งานโรงไฟฟ้า งานด้านพลังงานทดแทน และงานอาคารต่างๆ
ปัจจุบัน ไตร-เอ็น โทเอเน็ค ให้บริการลูกค้าผู้ประกอบการโครงการอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก คิดเป็น 90% ของลูกค้าทั้งหมด โดยบริษัทตั้งเป้าการเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มมิกซ์ยูสเนื่องจากปัจจุบันโครงการอสังหาส่วนใหญ่มีการปรับตัวไปเพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภค และลูกค้ากลุ่มอาคารสำนักงาน โรงแรม โรงงาน งานโรงไฟฟ้า และงานด้านพลังงานทดแทนให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มนี้อีกราว 30-40%
นอกจากนี้ ยังวางเป้าหมายขยายฐานกลุ่มลูกค้าในประเทศซีแอลเอ็มวี รวมถึงคว้าโอกาสงานจากกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นที่มาลงทุนในไทย โดยบริษัทเห็นถึงช่องทางธุรกิจที่จะเข้าไปรองรับความต้องการส่วนนี้ อีกทั้งยังได้เปรียบเชิงการแข่งขันจากการสนับสนุนจากโทเอเน็ค
