“กรมธุรกิจพลังงาน” เผยยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 4 เดือนแรกของ ปี 2565 เพิ่มขึ้น 11.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว
วันนี้ (31 พ.ค.) นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวัน ระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน 2565 เพิ่มขึ้น 11.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า การใช้กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้น 15.7% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้น 48.8% น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 17.2% LPG เพิ่มขึ้น 9.3% น้ำมันก๊าดเพิ่มขึ้น 4.0% ขณะที่การใช้ NGV ทรงตัวในระดับเดิม
อย่างไรก็ดี การใช้กลุ่มเบนซินลดลง 3.9% โดยการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เฉลี่ยอยู่ที่ 29.60 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาที่อยู่ในระดับสูง
เช่นเดียวกับการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ 95 แก๊สโซฮอล์ อี20 และเบนซิน ที่ลดลงมาอยู่ 6.93 ล้านลิตร/วัน 15.37 ล้านลิตร/วัน 5.74 ล้านลิตร/วัน และ 0.57 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ อี85 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.99 ล้านลิตร/วัน
การใช้ น้ำมันกลุ่มดีเซล เดือนมกราคม-เมษายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 77.28 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 15.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 การใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 66.65 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 68%
น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 3.39 ล้านลิตร/วัน และ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้ 0.21 ล้านลิตร/วัน การใช้ที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น และมาตรการช่วยเหลือโดยตรึงราคาให้ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร
การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 7.22 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 48.8% เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการการบิน และการเดินทางเข้า-ออกประเทศ โดยมาตรการ Test & Go ได้เปิดลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 หลังจากระงับตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2564 โดยกำหนดให้ตรวจ COVID-19 ด้วยวิธี RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง และต้องมีหลักฐานการจองโรงแรมที่พัก
มาตรการ Test & Go เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 ได้เปลี่ยนการตรวจหาเชื้อจากวิธี RT-PCR เป็น ATK และไม่ต้องจองโรงแรมในการตรวจครั้งที่ 2 พร้อมทั้งลดวงเงินประกันเป็นไม่ต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์ เพื่อหนุนการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เห็นชอบยกเลิกการตรวจ RT-PCR สำหรับผู้เดินทางเข้าไทยที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ รวมทั้งปรับลดวงเงินประกันสำหรับผู้เดินทางเป็น 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ศบค. ยังเห็นชอบปรับระดับพื้นที่ตามสถานการณ์ การระบาด เหลือพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 65 จังหวัด และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 12 จังหวัด โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565
การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 17.77 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.3% เนื่องจากการใช้ในภาคปิโตรเคมีที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ 7.93 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 16.3% ภาคขนส่งเฉลี่ยอยู่ที่ 2.01 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 9.8% และภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.02 ล้านกก./วัน หรือเพิ่มขึ้น 9.1%
สำหรับการใช้ในภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 5.80 ล้านกก./วัน หรือ 1%
การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.29 ล้านกก./วัน ทรงตัวอยู่ในระดับเดิม หรือเพิ่มขึ้นเพียง 0.01% โดย ปตท. ขยายระยะเวลาการคงราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติ สำหรับยานยนต์ (NGV) ที่ 15.59 บาท/กิโลกรัม และราคาขายปลีก NGV สำหรับรถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเคยได้รับสิทธิผ่านมาตรการ NGV เพื่อลมหายใจเดียวกันที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม จนถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2565 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จากสถานการณ์ราคาพลังงาน และการแพร่ระบาดของ COVID-19
ส่วนการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง ช่วงเดือนมกราคม-เมษายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,018,628 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.4% โดยการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 951,689 บาร์เรล/วัน หรือเพิ่มขึ้น 9.1% สอดคล้องกับความต้องการใช้ในประเทศที่สูงขึ้น
มูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 96,646 ล้านบาท/เดือน หรือเพิ่มขึ้น 96.5% โดยมูลค่าการนำเข้าที่สูงขึ้นนี้ เป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมาของปี 2565
ส่วนการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 66,938 บาร์เรล/วัน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 5,801 ล้านบาท/เดือน
ขณะที่การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เดือนมกราคม-เมษายน 2565 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกลดลงมาอยู่ที่ 155,522 บาร์เรล/วัน หรือลดลง 8.6% คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 17,464 ล้านบาท/เดือน หรือเพิ่มขึ้น 70.2%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘บิ๊กตู่’ วอนประชาชนใช้พลังงานประหยัด – ยันรัฐออกมาตรการช่วยต่อเนื่อง!!
- ‘ธนกร’ เทียบชัด ๆ ราคาน้ำมันไทยถูกกว่าอาเซียน ยันตรึงดีเซลไม่เกิน 32 บาท ถึง 29 พ.ค.นี้
- ‘กบน.’ ประกาศตรึงราคาดีเซลต่อเนื่อง แม้กองทุนติดลบกว่า 7.6 หมื่นล้าน!