Economics

จะขึ้นค่าไฟแล้ว! จับตา ‘บอร์ด กกพ.’ เคาะราคา มีนาคมนี้

จ่อขึ้นค่าไฟ!! จับตา “บอร์ด กกพ.” เคาะราคาเดือนมีนาคมนี้ “คมกฤช” ย้ำ จะพยายามทำให้ค่าไฟมีเสถียรภาพมากที่สุด

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า จากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว การผลิตสินค้าต่าง ๆ มีกำลังผลิตเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การใช้พลังงานทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น เพราะผู้ผลิตมีความต้องการใช้พลังงานมากขึ้นด้วยดังนั้น อาจส่งผลต่อราคาค่าไฟที่สูงขึ้นเช่นกัน

สำหรับทิศทางค่าไฟฟ้าปี 2565 อาจจะต้องปรับขึ้นแบบขั้นบันได โดยการที่ประเทศไทยใช้ก๊าซธรรมชาติ (แอลพีจี) เพื่อนำมาเป็นเชื้อเพลิง โดยส่วนหนึ่งมาจากการนำเข้า และอีกส่วนหนึ่ง คือการดึงก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยขึ้นมาใช้ประโยชน์ของผู้ได้รับสัมปทาน อีกทั้งราคาเชื้อเพลิงดังกล่าว ก็จะอิงกับราคาน้ำมันด้วย เมื่อน้ำมันมีราคาสูง ราคาก๊าซธรรมชาติ ก็สูงขึ้นด้วย

ขึ้นค่าไฟ

เบื้องต้นน่าจะขึ้นค่าไฟเล็กน้อย

“ในเดือน มีนาคมนี้ กกพ.จะออกประกาศ มติกกพ.อีกในรอบใหม่อีกครั้ง โดยเบื้องต้นราคาน่าจะขยับนิดหน่อย แต่ยืนยันว่า กกพ.จะพยายามทำให้ค่าไฟมีเสถียรภาพมากที่สุด” นายคมกฤช กล่าว

ท่าทีดังกล่าวมีขึ้น หลังเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว กกพ. มีมติเรียกเก็บค่า Ft งวดเดือนมกราคม-เมษายน 2565 เพิ่มขึ้น 16.71 สตางค์จากฐาน -15.32 สตางค์ในงวดก่อนหน้ าหรือเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.39 สตางค์ต่อหน่วย ถือเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 ปี

นายคมกฤช บอกด้วยว่า ในช่วงรอยต่อ ที่บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จะเข้าไปบริหารกิจการแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณ นั้น ปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติ จากแหล่งนี้ ในเดือนเมษายน จะเหลืออยู่ที่ราว 420-425 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) กำหนดไว้ที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

ปตท.สผ. คาดว่าจะใช้เวลา 2 ปี เพื่อทำให้แหล่งเอราวัณ กลับมาผลิตก๊าซฯ ได้ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันตามสัญญา PSC ซึ่งทำให้ระหว่างนั้น จะต้องนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีเพิ่มมากขึ้น และอาจกระทบกับต้นทุนการผลิตไฟฟ้า ที่เบื้องต้นที่คาดการณ์ว่า เมื่อราคาเชื้อเพลิงถูกลง ก็จะต้องปรับค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft)

กกพ. พยายามที่จะบรรเทาผลกระทบโดยปรับขึ้นราคาเป็นขั้นบันได โดยมองว่าแนวโน้มราคาค่าไฟอาจจะขึ้นทั้งปี

ขึ้นค่าไฟ
คมกฤช ตันตระวาณิชย์

ทั้งนี้ กกพ.ได้พิจารณานําเงินผลประโยชน์ของบัญชี Take or Pay แหล่งก๊าซธรรมชาติเมียนมาจำนวน 13,594 ล้านบาท ตามมติคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ (กพช.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ไปช่วยอุดหนุนค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่า Ft โดยนําส่งเงิน และลดราคาค่าก๊าซธรรมชาติให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนในรอบงวดที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายคมกฤช กล่าวด้วยว่า จากทิศทางราคาพลังงานที่สูงขึ้น กกพ.จะพยายามหาวิธีดูแลค่าไฟประชาชนอย่างต่อเนื่อง อาทิ หาพลังงานเชื้อเพลิงชีวมวล พลังงานน้ำ และพลังงานลมเข้ามาเพิ่ม

จากมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565 ให้รับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนส่วนเพิ่มจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) และหรือผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) จากสัญญาเดิมกลุ่มชีวมวลเพิ่มขึ้น 400 เมกะวัตต์ ถือเป็นหนึ่งในแนวทางลดผลกระทบจากปริมาณก๊าซธรรมชาติที่หายไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo