Economics

‘รมว.คลัง’ ปัดถังแตก!! แจงเหตุหั่นเงิน ‘คนละครึ่งเฟส 4’ เหลือแค่ 1,200 บาท

“รมว.คลัง” ปัดถังแตก!! แจงเหตุหั่นเงิน “คนละครึ่งเฟส4” เหลือแค่ 1,200 บาท/สิทธิ์ เพราะเศรษฐกิจเริ่มฟื้น ไม่เกี่ยวรัฐไม่มีเงิน ชี้ พ.ร.ก.กู้เงินมีเหลืออีกกว่า 1 แสนล้าน ยังเพียงพอใช้ดูแลเศรษฐกิจ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบการดำเนินมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 วงเงินรวม 44,000 ล้านบาท ผ่าน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเฟส 4 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 และ โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 โดยให้เริ่มใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2565

คนละครึ่งเฟส4

อย่างไรก็ตาม มองว่า การดำเนินการทั้ง 3 โครงการจะช่วยรักษากำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ จากการเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในปี 2565 จำนวน 79,023 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ GDP ทั้งปี 2565 เพิ่มขึ้น 0.21% ต่อปี

นายอาคม กล่าวถึงสาเหตุที่ปรับลดวงเงินโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ลงเหลือ 1,200 บาทต่อสิทธินั้น เนื่องจากข้อมูลจากการดำเนินมาตรการคนละครึ่งระยะที่ 3 พบว่า มีผู้ที่ได้รับสิทธิและไม่มีการใช้จ่ายเงินตามสิทธิเลย จำนวน 1.6 ล้านคน ขณะที่ผู้ใช้สิทธิพบว่ามีการใช้จ่ายเฉลี่ย 158 บาทต่อคนต่อวันเท่านั้น ทำให้โครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 มีวงเงินเหลือคืนรัฐกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังพบว่าดัชนีทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ ประชาชนเริ่มออกมาจับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น และพบว่าธุรกิจเริ่มกลับมาเปิดตัวและมีการเรียกแรงงานกลับเข้าทำงาน ส่งผลดีต่อรายได้ ดังนั้น ในโครงการคนละครึ่งระยะที่ 4 จึงได้ปรับลดวงเงินเหลือ 1,200 บาทต่อคนต่อสิทธิ แต่ก็ได้เปิดระยะเวลาให้สามารถทยอยใช้จ่ายได้ 3 เดือน

สำหรับรายละเอียดมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศปี 2565 มีดังนี้

คนละครึ่งเฟส4

เพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเฟส 4 ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2565 (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 600 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 8,071 ล้านบาท ให้แก่ผู้มีบัตรฯ จำนวนไม่เกิน 13.45 ล้านคน โดยจะใช้ฐานข้อมูล ณ วันที่ 25 มกราคม 2565

เพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ

2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าฯ และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2565 (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 600 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 1,352 ล้านบาท

ให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือตามโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถเดินทางไปลงทะเบียนหรือเดินทางไปใช้จ่ายวงเงินที่ได้รับผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้) ผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับสิทธิตามโครงการเราชนะ กลุ่ม 4 จำนวนไม่เกิน 2.25 ล้านคน

คนละครึ่งเฟส4

คนละครึ่งเฟส 4

3. โครงการคนละครึ่งเฟส 4 สนับสนุนวงเงินค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และบริการนวดสปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ ยกเว้นสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และสินค้าหรือบริการที่กระทรวงการคลังกำหนด จากภาครัฐในอัตราร้อยละ 50 ทั้งนี้ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 1,200 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ – วันที่ 30 เมษายน 2565 ให้กับประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เข้าร่วมโครงการจำนวนไม่เกิน 29 ล้านคน ซึ่งการร่วมจ่ายคนละครึ่งนี้จะเป็นการช่วยเติมกำลังซื้อให้แก่ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo