Economics

‘หอการค้าไทย’ ค้านล็อกดาวน์! หวั่นกระทบเศรษฐกิจ-ประเทศต้องนับหนึ่งใหม่

“หอการค้าไทย” โดดค้านล็อกดาวน์ประเทศ หลัง “สธ.” ประกาศยกระดับการเตือนภัยโควิดเป็นระดับ 4 หวั่นกระทบเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นของประชาชน ลั่นทำให้ประเทศต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ตามที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประกาศยกระดับการเตือนภัยโควิดจากเดิมระดับ 3 ปรับขึ้นเป็นระดับ 4 โดยจะมีข้อแนะนำและมาตรการเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจมีการปิดสถานที่เสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดการแพร่เชื้อ รวมถึงชะลอการเดินทาง เช่น การให้ทำงานที่บ้าน (Work from Home) การเดินทางข้ามจังหวัด การเคลื่อนย้ายคน และการจำกัดการรวมกลุ่มนั้น หอการค้าไทย อยากให้มีการพิจารณาถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่รอบด้าน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว ถึงแม้ปัจจุบันจะทราบกันดีว่าสายพันธุ์โอไมครอนมีการแพร่ระบาดที่รวดเร็ว และมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นหลังเทศกาลปีใหม่ที่เพิ่งผ่านพ้นมา และไทยคงหลีกเลี่ยงการระบาดที่จะขยายวงกว้างมากขึ้นไม่ได้

หอการค้าไทย

เร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3-4

ทั้งนี้ หากพิจารณาถึงอาการจะพบว่าไม่ได้รุนแรงเท่ากับสายพันธุ์เดลตา ในขณะที่หลายประเทศในยุโรป ที่มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดที่รวดเร็ว ก็มีอัตราการหายที่รวดเร็วเช่นกัน ประชากรส่วนใหญ่ของไทยต่างได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง รวมทั้งระบบสาธารณสุขที่ยังคงสามารถรองรับผู้ป่วยได้ จึงคิดว่าการดำเนินมาตรการในช่วงนี้ คงต้องเน้นการเพิ่มความระมัดระวัง คุมเข้มสถานประกอบการที่มีประชาชนใช้บริการอย่างหนาแน่น และเร่งการ Boost เข็ม 3-4 ให้กับประชาชน ตามที่รัฐบาลได้เตรียมการไว้แล้วให้มากที่สุด ก็จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้น และลดความรุนแรงของการติดเชื้อได้

นายสนั่น ยืนยันว่า หอการค้าไทยไม่เห็นด้วย หากภาครัฐจะยกระดับมาตรการ ด้วยการล็อกดาวน์ทุกกิจกรรมของประเทศ เพราะสถานการณ์ในวันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้รับวัคซีน ต่างจากกลางปีที่แล้ว ที่การฉีดวัคซีนและปริมาณวัคซีนยังมีน้อยและไม่เพียงพอ ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายมหาศาลกับเศรษฐกิจแล้ว ยังจะส่งผลให้ความเชื่อมั่นของประชาชนภายในประเทศลดลง

หอการค้าไทย

หวั่นประเทศต้องนับหนึ่งใหม่

“ที่ผ่านมา บรรยากาศของประเทศเพิ่งกลับมาคึกคัก หลายภาคส่วนมีความหวังในการตั้งต้น และเดินหน้าธุรกิจใหม่ในปี 2565 และประชาชนเริ่มสามารถดำเนินชีวิตใกล้เคียงปกติได้มากขึ้น หากกลับไปล็อกดาวน์ จะทำให้ประเทศต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง ส่วนภาครัฐเอง ก็จะต้องหามาตรการเยียวยาฟื้นฟูประเทศใหม่ และจะต้องใช้งบประมาณมหาศาล” นายสนั่น กล่าว

นายสนั่น กล่าวว่า ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลเน้นการเพิ่มมาตรการคุมเข้มในพื้นที่เสี่ยง จัดเตรียมระบบสาธารณสุขในแต่ละจังหวัดให้มีความพร้อม โดยเฉพาะเตียงรองรับผู้ป่วยรุนแรง ให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครสาธารณสุขในแต่ละจังหวัดเพิ่มความคุมเข้มและสร้างความเข้าใจที่ดีกับประชาชนในแต่ละพื้นที่ โดยนำมาตรการ Home Isolation / Hospitel กลับมาใช้ ส่วนภาคเอกชนพร้อมนำมาตรการ Bubble and Seal กลับมาเป็นแนวทางของแต่ละกิจการอีกครั้ง เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจในแต่ละพื้นที่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo