ดัชนีเชื่อมั่นสมาชิกหอการค้าไทยทุกภูมิภาคเดือน ต.ค. ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 48.0 หลังราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ยอดนักท่องเที่ยวจีนลดลง
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นสมาชิกหอการค้าไทยทุกภูมิภาคเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พบว่าปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 48.0 ตามราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ นักท่องเที่ยวจีนลดลง ชี้สงครามการค้าเริ่มมีผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมในประเทศแล้ว
นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจล่าสุดของดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยเดือนตุลาคม 2561 พบว่า มีการปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 48.0 จากเดือนกันยายนที่อยู่ระดับ 48.4 ซึ่งยังต่ำกว่าค่ากลางที่ 50 ตามการชะลอตัวของการบริโภค ราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดปรับตัวลดลง ทั้งปาล์ม และยางพารา เป็นต้น รวมทั้งการลดลงของนักท่องเที่ยวจีน และปัญหาสงครามการค้าที่เริ่มส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมในประเทศ ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งการบริโภค การลงทุน ท่องเที่ยว เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การค้า และการจ้างงาน ที่ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยแบบรายภูมิภาคลดลงเกือบทุกภูมิภาค มีเพียงภาคบริการที่ยังมีแนวโน้มดีอยู่ และมีเพียงภาคเหนือ ภาคเดียวที่ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยเดือนตุลาคมปรับตัวดีมาอยู่ที่ 48.2 จาก 48.0 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลทองเที่ยวของภาคเหนือแล้ว
ส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ดัชนีปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 มาอยู่ที่ระดับ 49.4 จากภาคอุตสาหกรรม การลงทุน และภาคการค้า ขณะที่ภาคกลาง ดัชนีอยู่ที่ระดับ 47.9 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 จากภาคการลงทุน การท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรม ภาคตะวันออก ดัชนีฯ ก็ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 52.4 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 47.1 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 จากการค้าชายแดน การบริโภค และภาคเกษตรปรับตัวลดลง และภาคใต้ ค่าดัชนีลดลงอยู่ที่ระดับ 46.7 ลดลงสูงสุดนับตั้งแต่ทำการสำรวจ เนื่องจากปัจจัยทุกด้านทางเศรษฐกิจลดลงทั้งหมด
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า จากปัญหาทั้งจากสงครามการค้าและการท่องเที่ยว เริ่มมีผลต่อภาคอุตสาหกรรมในประเทศ ทำให้เศรษฐกิจมีสัญญาณการซึมตัว รวมทั้งภาคการค้าเริ่มได้รับผลกระทบจากธุรกิจออนไลน์ ทำให้แข่งขันได้ยาก ซึ่งอาจจะมีผลให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ได้ แต่ในช่วง 2 เดือนที่ของปีนี้รัฐบาลได้เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับผู้มีรายได้น้อย และยังจะมีมาตรการช้อปช่วยชาติที่จะมาเป็นตัวพยุงเศรษฐกิจไว้ ทำให้มหาวิทยาหอการค้าไทยยังคงประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ ไว้ตามเดิมร้อยละ 4 – 4.2 ซึ่งจะมีการประเมินอีกครั้งหลังการประชุมสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ หอการค้าไทยได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะปัญหาการค้าออนไลน์ที่เริ่มกับธุรกิจรายย่อย โดยการจัดอบรมการค้าออนไลน์ให้กับผู้ค้ารายย่อย และส่งเสริมให้มีคลินิคเอสเอ็มอีทุกจังหวัด เพื่อเป็นพี่เลี้ยงสำหรับการทำออนไลน์ ตลอดจนกำหนดกติกาการทำการค้าออนไลน์ เพื่อให้การแข่งขันเป็นธรรม และเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บภาษีของรัฐบาล เพื่อให้เร่งปรับตัวทันกับการค้าสมัยใหม่ เป็นต้น
