“ศิริ” ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโรงไฟฟ้าบางปะกง มั่นใจนำน้ำมันปาล์มดิบมาผลิตไฟฟ้าได้ตามแผนกลางเดือนมกราคม 2562 เป็นต้นไป
จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) จากแหล่งพื้นที่ผลิตที่สำคัญ ได้แก่ กระบี่ สุราษฎร์ธานี และชุมพร ในปริมาณ 160,000 ตัน เพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยให้ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดหาจากเกษตรกรผู้ผลิตที่ ลานเท และโรงงานสกัดที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับซื้อในราคากิโลกรัมละ 18 บาท เริ่มรับซื้อตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เป็นต้นไป เพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าระหว่างเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2562
เมื่อเร็วๆนี้ ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการปรับปรุงโรงไฟฟ้าพลังความร้อนบางปะกง หน่วยที่ 3 เพื่อเตรียมเดินเครื่องด้วยน้ำมันปาล์มดิบ ซึ่งจะเริ่มทดสอบระบบภายในเดือนธันวาคม ให้สามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2562
ดร.ศิริ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงโรงไฟฟ้าพลังความร้อนบางปะกง หน่วยที่ 3 ให้เดินเครื่องด้วยน้ำมันปาล์มดิบ ที่โรงไฟฟ้าบางปะกง โดยได้เข้าไปดูพื้นที่บริเวณถังน้ำมันที่ใช้เก็บสำรองน้ำมันปาล์มดิบ ห้องควบคุมการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังความร้อนบางปะกง หน่วยที่ 3 และบริเวณท่าเรือรับน้ำมันปาล์มดิบ
พร้อมทั้งรับฟังแผนการดำเนินงานจากผู้บริหารกฟผ. ทำให้มั่นใจได้ว่ามีการวางแผนงานที่ดี และมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ สามารถนำน้ำมันปาล์มดิบมาผลิตไฟฟ้าได้ตามที่วางไว้
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ ในฐานะโฆษก กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. ได้ปรับปรุงระบบเผาไหม้เชื้อเพลิงรับจ่ายน้ำมัน เช่น หัวจ่ายเชื้อเพลิง ( Burner ) ของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนหน่วยที่ 3 ให้พร้อมใช้น้ำมันปาล์มดิบร่วมกับก๊าซธรรมชาติในอัตราส่วน 50 : 50 โดยมีปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าเดือนละ 30,000 ตัน ซึ่ง กฟผ. จะรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบในราคากิโลกรัมละ 18 บาท ณ ท่าเทียบเรือโรงไฟฟ้าบางปะกง ที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดหาจากเกษตรกรผู้ผลิตที่ลานเทและโรงสกัดขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในพื้นที่แหล่งผลิตที่สำคัญ เช่น กระบี่ สุราษฎร์ธานี และชุมพร เป็นต้น
สำหรับการขนส่งน้ำมันปาล์มดิบไปยังโรงไฟฟ้านั้น กฟผ. จะร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ใช้การลำเลียงทางเรือวันเว้นวัน ขนาดความจุลำละ 2,000 ตัน นำขึ้นที่ท่ารับน้ำมันฝั่งศูนย์ฝึกอบรมบางปะกง จากนั้นจะใช้รถบรรทุกขนาด 20 ตัน ขนส่งจากท่ารับน้ำมันฯ ไปที่โรงไฟฟ้าบางปะกง ระยะทาง 11 กิโลเมตร โดยขนส่ง 3 ช่วงเวลา คือ 05.00 – 07.00 น. 09.00 – 16.00 น. และ 19.00 – 22.00 น.
กฟผ. จะเริ่มทยอยรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เป็นต้นไป และคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าด้วยน้ำมันปาล์มดิบอย่างเป็นทางการได้ในวันที่ 15 มกราคม 2562 และสิ้นสุดโครงการในเดือนกรกฎาคม 2562 รวมระยะเวลาดำเนินโครงการทั้งสิ้น 6 เดือน
