Perfect Match!! “การบินไทย – คาเฟ่อเมซอน” จับมือเปิดร้านแบบ “Co-Brand” คาดเริ่มให้บริการสาขาแรกในปีหน้า เล็งใช้ความเย็นที่เหลือจากธุรกิจ ปตท. ไปต่อยอดธุรกิจการบินไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 พ.ย.) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจภาคพื้น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการศึกษาและพัฒนาการประกอบธุรกิจร่วมกัน ทั้งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีการผลิต รวมถึงการส่งเสริมการสร้างภาพลักษณ์ตราสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2561 เป็นต้นมา การบินไทยได้ทดลองจัดจำหน่ายเบเกอรี่ในร้านคาเฟ่อเมซอนที่ PTTOR บริหารเอง จำนวน 5 สาขา บริเวณอาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่ โดยการบินไทยมีเบเกอรี่กว่า 15 รายการร่วมวางจำหน่ายและลูกค้าก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ทั้ง 2 หน่วยงานจึงมีแผนการขยายความร่วมมือเพิ่มขึ้นอีก 12 สาขาภายในสิ้นปี 2561
สำหรับการบินไทย ถือเป็นคู่ค้าที่มีศักยภาพ มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจทั้งในด้านการบิน รวมถึงด้านอาหารและเครื่องดื่ม มีเครือข่ายทางธุรกิจทั่วโลกมาอย่างยาวนาน การบันทึกความเข้าใจการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจภาคพื้นในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกของความร่วมมือในการนำจุดแข็งของทั้ง 2 ฝ่าย คือ ทั้ง การบินไทย และ PTTOR มาร่วมกันต่อยอด สร้างประโยชน์ร่วมให้เกิดขึ้น สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจเดิมที่การบินไทยดำเนินการอยู่ อีกทั้งยัง สามารถทำให้ร้านคาเฟ่อเมซอนมีความหลากหลายของสินค้าที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น
เปิดร้าน Co-Branding “การบินไทย-คาเฟ่อเมซอน”
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปลายปีนี้ การบินไทยจะวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ในร้าน Café Amazon เพิ่มขึ้นอีกกว่า 10 สาขาและเพิ่มเป็นกว่า 100 แห่งในปี 2562
นอกจากนี้ การบินไทยและ ปตท. จะใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการตลาดร่วมกัน (Co-Branding) ด้วยการหาพื้นที่เปิดร้านอาหารของการบินไทย และคาเฟ่อเมซอนของ ปตท. ในบริเวณเดียวกัน โดยคาดว่าร้าน Co-Branding แห่งแรกจะเปิดในปี 2562 และเริ่มจากพื้นที่ของหน่วยงานราชการก่อน เพราะการบินไทย และ ปตท. เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทั้งคู่ ถ้าหากประสบความสำเร็จก็สามารถขยายสาขาไปยังต่างประเทศได้ด้วย อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าความร่วมมือดังกล่าวจะไม่กระทบต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่ส่งเบเกอรี่และขนมให้กับคาเฟ่อเมซอน เพราะปัจจุบัน ปตท. มีคาเฟ่อเมซอนกว่า 2,300 สาขา ทั้งในและต่างประเทศ
“Co-Branding มีเป้าหมายเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป เพราะเราจะเห็นว่าร้านกาแฟหลายร้าน เขาก็มีค่อนข้าง Complete เป็นอาหารแบบสลัด อาหารพร้อมทานที่มีกลิ่นไม่แรงมาก ไม่เสียมาก ทานคู่กับกาแฟ เราก็ถือว่าเป็น Perfect Match เพราะเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งคู่และแบรนด์ก็เข้มแข็งทั้งคู่ ทั้ง Puff&Pie และ ปตท.” นายอรรถพล กล่าว
ขณะเดียวกัน ทั้ง 2 หน่วยงานจะหารือเรื่องการนำความเย็นที่เหลือจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของ ปตท. มาพัฒนาธุรกิจอาหารแช่แข็งของการบินไทย โดยเรื่องนี้อยู่ระหว่างการเริ่มต้นหารือและต้องพิจารณาความคุ้มค่าอีกครั้ง
การบินไทยเชื่อร่วมมือกับ ปตท. เพิ่มรายได้ 40 ล้านบาท
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจครัวการบินของการบินไทยมีรายได้รวม 8,200 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้เฉพาะส่วนภาคพื้น 720 ล้านบาทต่อปี โดยคาดว่าความร่วมมือกับ ปตท. จะส่งผลให้รายได้จากภาคพื้นเพิ่มขึ้นอีก 40 ล้านบาทในระยะแรก โดยหลังจากนี้ ปตท. และการบินไทยจะต้องจัดทำแผนธุรกิจร่วมกัน ทั้งเรื่องการจัดจำหน่ายเบเกอรี่ในคาเฟ่อเมซอนและการจัดทำ co-branding ซึ่งเชื่อว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี
นอกจากนี้ ครัวการบินจะขยายกำลังผลิตไปยังธุรกิจอาหารแช่แข็ง เพื่อเจาะตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพราะ ปตท. มีความเย็นส่วนเกินที่สามารถนำมาต่อยอดธุรกิจอาหารแช่แข็งด้วยต้นทุนต่ำ
นางวรางคณา ลือโรจน์วงศ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายครัวการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันการบินไทยมีรายได้จากครัวการบิน เฉพาะในส่วนของภาคพื้นประมาณ 720 บาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มรายได้ส่วนนี้อีก 100% เป็น 1,400 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า เพราะการบินไทยมีนโยบายรุกขยายช่องทางจัดจำหน่ายในภาคพื้น พร้อมร่วมมือเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานต่างๆ เช่น โรงพยาบาล, ปตท., บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เป็นต้น