รับต่อไม่มีสะดุด! “ม33เรารักกัน เฟส 2” โอนเยียวยาอีก 2,000 บาทแบบอัตโนมัติ ผู้ประกันตนเช็คเลย เงินเข้าวันไหน?
เมื่อวานนี้ (11 พ.ค.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด โครงการ ม33เรารักกัน เพื่อจ่ายเงินเยียวยาเพิ่มเติมในเฟสที่ 2 อีกคนละ 2,000 บาท
ผู้มีสิทธิ์รับเงินเยียวยาดังกล่าวจะต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 (ลูกจ้าง) ที่เข้าร่วมโครงการ ม33เรารักกัน ในเฟสที่ 1 โดยสามารถรับวงเงินเยียวยาในเฟสที่ 2 ต่อแบบอัตโนมัติ ไม่ต้องลงทะเบียนเพิ่มแต่อย่างใด
“ม33เรารักกัน เฟส 2” เงินเข้าวันไหน?
โครงการ ม33เรารักกัน เฟสที่ 2 จะอุดหนุนวงเงินจับจ่ายให้ผู้ประกันตนเพิ่มคนละ 2,000 บาท โดนแบ่งการโอนวงเงินเป็น 2 งวด งวดละ 1,000 บาท ดังนี้
- งวดที่ 1 วงเงิน 1,000 บาท วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2564
- งวดที่ 2 วงเงิน 1,000 บาท วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2564
ผู้ประกันตนสามารถใช้จ่ายวงเงิน ม33เรารักกัน ซื้อสินค้าและบริการได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 จากเดิมต้องใช้วงเงินให้หมดภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เท่านั้น
สำหรับโครงการ ม33เรารักกัน เฟสที่ 2 จะครอบคลุมผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิ์ในรอบแรก 8.11 ล้านคนและกลุ่มที่อยู่ระหว่างการทบทวนสิทธิ์ 30,000 คน โดยโครงการฯ จะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น 11,741 ล้านบาท รวมเป็น 48,841 ล้านบาท
“ม33เรารักกัน” คืออะไร?
โครงการ ม33เรารักกัน คือโครงการช่วยเหลือ เยียวยา และแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด – 19 ด้วยการจ่ายเงินเยียวยาในเฟสแรก 4,000 บาท และเฟสที่ 2 จำนวน 2,000 บาท ซึ่งไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้
ผู้สามารถเข้าร่วมโครงการ ม33เรารักกัน และรับเงินเยียวยาโควิด – 19 ต้องมีคุณสมบัติ 5 ข้อดังนี้
- มีสัญชาติไทย
- เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 (ลูกจ้าง) ในระบบกองทุนประกันสังคม ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการฯ หรือเคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา
- ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน)
- ไม่ได้รับสิทธิเยียวยา 7,000 บาทจากโครงการเราชนะ
- มีเงินฝากในสถาบันการเงินรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563
ใช้ซื้ออะไรได้บ้าง?
ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับวงเงินเยียวยา ม33เรารักกัน สามารถใช้วงเงินสแกนซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านค้า/ผู้ประกอบการ/บริการ ในร้านธงฟ้าที่ใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” หรือภายใต้โครงการ “คนละครึ่ง” และโครงการ “เราชนะ”
ลักษณะกิจการที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ก็มีหลากหลาย ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม, ธงฟ้า, กิจการ OTOP, สินค้าทั่วไป, โรงแรม/ที่พัก, สุขภาพ/ความงาม, ขนส่งสาธารณะ, รับเหมา/งานช่าง/ทำความสะอาด และสุขภาพ/การแพทย์
ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับเงินเยียวยา สามารถหาผู้ประกันการที่เข้าร่วมโครงการได้ คลิกที่นี่
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘บิ๊กตู่’ เรียกประชุมทีมเศรษฐกิจ คาดถกมาตรการช่วยเหลือประชาชน
- ราคาทองคำเช้านี้ ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ตลาดโลกลดลง แต่ค่าบาทอ่อน
- ทางการแล้ว! ครม. เคาะวันโอน ‘เราชนะ’ เข้า ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ จดไว้ให้ดี