“รมว.พลังงาน” วางคอนเซปต์ “พีดีพี” เน้นแต่ละภาคพึ่งพาตัวเองด้านไฟฟ้า พร้อมศึกษา 2 ทางเลือกขยายโรงไฟฟ้าขนอม -สร้างโรงใหม่ที่สุราษฎร์ฯ
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมโรงไฟฟ้าขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ของบริษัทผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัดในเครือบริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก กรุ๊ป ว่า การปรับปรุง แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า ( PDP 2015)จะแล้วเสร็จในสิ้นปีนี้ โดยจะมุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงของกำลังผลิตไฟฟ้ารายภาค
ในส่วนภาคใต้ซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปี 2560 มีความต้องการใช้สูงสุดอยู่ที่ 2,624 เมกะวัตต์ ขณะที่โรงไฟฟ้าหลัก 2 แห่งมีกำลังผลิตติดตั้งรวม 2,406 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าจะนะ และขนอม ที่เหลือส่งมาจากภาคกลาง
ดังนั้นในอนาคตมีความจำเป็นต้องขยายกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในภาคใต้ ทางเลือกที่ต้องนำมาพิจารณา คือ ผลิตจากโรงไฟฟ้าภาคตะวันออกและส่งมาทางภาคใต้ เช่น กาญจนบุรี และราชบุรี อีกทางเลือก คือ เพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าในภาคใต้เอง ซึ่งมี 2 ทางเลือกเช่นกัน คือขยายกำลังผลิตจากโรงไฟฟ้าขนอมที่มีกำลังผลิตติดตั้ง 930 เมกะวัตต์ หรือ ตั้งโรงไฟฟ้าที่จังหวัดสุราษฎ์ธานีที่ต้องนำกลับมาพิจารณาใหม่ ซึ่งทั้งหมดต้องผ่านการศึกษาความเหมาะสม
“ที่ผ่านมาการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้เติบโตสูง ตอนนี้ก็มีปัญหาไฟฟ้าดับบ่อยๆ เช่นล่าสุด ที่เกาะสมุย และพงัน แนวทางของแผน PDP ฉบับใหม่จะมุ่งเน้นการพึ่งพาตัวเองด้านกำลังผลิตไฟฟ้าของแต่ละภาคมากขึ้น ดังนั้นภาคต่างๆต้องมีความมั่นคงของกำลังผลิตในพื้นที่ของตนเอง ”
นายศิริ กล่าวว่า อนาคตไทยต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) หลักสำคัญเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้ารองรับก๊าซฯในอ่าวไทยที่กำลังมีกานผลิตลดลง ซึ่งกระทรวงพลังงานไดเเปิดทางให้ผู้ประกอบการนำเข้าได้อย่างเสรี โดยให้กระกฟผ.นำร่องนำเข้า 5 ล้านตัน เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้า โดยกฟผ.มีแผนที่จะทำสถานีเก็บรักษาและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติจากของเหลวเป็นก๊าซแบบลอยน้ำ (FSRU) ซึ่งอำเภอขนอม มีศักยภาพรองรับการนำเข้าแอลเอ็นจีของกฟผ
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการนำเข้าแอลเอ็นจีไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีการบริหารจัดการ เพราะต้องนำเข้าไกลจากรัสเซีย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ขณะเดียวกันราคาก็มีความอ่อนไหว
