Economics

พบศักยภาพน้ำมันดิบ ในอ่าวไทยเพิ่มอีก 5,000 บาร์เรล/วัน

พบศักยภาพปิโตรเลียมแหล่ง “นงนุช” กลางอ่าวไทย เพิ่มปริมาณผลิตน้ำมันดิบเพิ่ม 5,000 บาร์เรลต่อวัน สร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ

การผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย ที่พึ่งหลักอยู่ที่แหล่งเอราวัณและบงกชคิดเป็น 70% ของปริมาณปิโตรเลียมที่ผลิตได้ทั้งหมด และนับวันลดลง โดยทั้งสองแหล่งจะผลิตลดลงเหลือ 1,500 ล้านลบ.ฟุตต่อวันในปี 2565 และ 2566 เป็นต้นไป จากเดิมที่ผลิตได้ 2,140 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน หรือโดยรวมแล้วไทยผลิตลดลง ณ ปี 2562 ปริมาณผลิตปิโตรเลียม ทั้งก๊าซธรรมชาติ ก๊าซปิธรรมชาติเหลว (LNG) และน้ำมันดิบ รวม 274.73 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ลดลง 0.5% จากปี 2561

PTTEP Bongkot 1
แหล่งบงกช

ความหวังจึงอยู่ที่เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการค้นหา และผลิตแหล่งพลังงานในบ้านเรา การสำรวจพบศักยภาพในแหล่งปิโตรเลียม จึงเป็นเรื่องน่ายินดีในรอบหลายๆปีสำหรับประเทศเล็กๆอย่างไทยแลนด์

DSC 1606

ดร.ศุภลักษณ์ พาฬอนุรักษ์ โฆษกกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า ล่าสุดมีการสำรวจพบศักยภาพในพื้นที่ผลิตปิโตรเลียมนงนุช จำนวน 363.05 ตารางกิโลเมตร ซึ่งอยู่ในแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย หมายเลข G11/48 (บริเวณนอกชายฝั่งจังหวัดนราธิวาส) ซึ่งมีบริษัท เอ็มพี จี 11 (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ดำเนินงาน

ในเบื้องต้นมีการประเมินอัตราการผลิตน้ำมันดิบจากพื้นที่ผลิตดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาร์เรลต่อวัน โดยบริษัทผู้ดำเนินงานมีแผนจะผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ดังกล่าวในช่วงปี 2564-2576 โดยคณะกรรมการปิโตรเลียมได้อนุมัติพื้นที่ผลิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

“แม้ว่าในปัจจุบัน จะยังไม่มีการเปิดให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ใหม่ๆ เพิ่มเติม  แต่การดำเนินงานในสัมปทานเดิม ก็ได้มีการสำรวจพบและอนุมัติพื้นที่ผลิตปิโตรเลียมเพิ่มเติมอยู่บ้าง ซึ่งการอนุมัติพื้นที่ผลิตปิโตรเลียมนงนุชครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในประเทศ จากเดิมที่มีการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งปิโตรเลียมทั้งบนบกและในทะเลอยู่ที่ประมาณ 1.25 แสนบาร์เรลต่อวัน นับเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานจากแหล่งในประเทศเพิ่มขึ้น ”

Avatar photo