สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ประกาศจุดยืนมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมย้ำให้ความสำคัญกับข้อกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญด้านผังเมืองรวม และผังเมืองระดับพื้นที่ เพื่อประโยชน์ของทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียม
นางสาวทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ รองเลขาธิการสายงานพัฒนาพื้นที่และชุมชน สกพอ. กล่าวว่า ในการบริหารจัดการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นั้น สกพอ. มุ่งให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้คำนึง และปฎิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ โดยเฉพาะกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งยังได้มองไปข้างหน้าเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยได้ให้ความสำคัญต่อการวางแผนเรื่องผังเมือง ที่ในอดีตการพัฒนาอาจไม่ได้ลงรายละเอียด แต่สกพอ. ได้กำหนดเรื่องผังเมืองรวมของอีอีซีไว้อย่างชัดเจน และเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน
การจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก มีรายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้
การจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินของอีอีซี
กรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นองค์กรหลักในการจัดทำผังเมืองทั่วประเทศ และเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ดังนั้น การจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินของอีอีซี ได้นำหลักวิชาการของผังเมืองมาใช้ในการจัดวางผัง และคำนึงถึงความสัมพันธ์ชุมชน สุขภาวะของประชาชน สภาพแวดล้อมและระบบนิเวศน์ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นเป้าประสงค์หลักตามพระราชบัญญัติ อีอีซี และจะเป็นผังการใช้ประโยชน์ที่ดินที่ครอบคลุมในหลายมิติเป็นผังแรก ที่เป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อต้องการให้เป็นต้นแบบของผังการใช้ประโยชน์ที่ดินในกลุ่มจังหวัดอื่น ๆ ในอนาคต
พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 ให้ความสำคัญประชาชนและการพัฒนาที่ยั่งยืน
สาระหลักการจัดวางผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน
- กันพื้นที่ป่าไม้ เพื่อสงวนและอนุรักษ์พื้นที่ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คุ้มครองดูแลรักษา และบำรุงรักษาป่าไม้ สัตว์ป่า ต้นน้ำ ลำธาร และทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ โดยกำหนดระยะห่างจากป่าไม้ ไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตร ห้ามตั้งโรงงาน
- กันที่ดินประเภทที่โล่ง เพื่อการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อการสงวนรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในบริเวณแหล่งน้ำ ชายฝั่งทะเล พื้นที่ต้นน้ำ และกำหนดระยะห่างจากริมฝั่งตามสภาพธรรมชาติของแม่น้ำหรือ ลำคลอง ไม่น้อยกว่า 500 เมตร ห้ามตั้งโรงงาน 3) กำหนดประเภทการใช้ที่ดินอย่างสอดคล้องเหมาะสม โดยนำพื้นที่ส่วนที่เหลือจากการกันออก มากำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเหมาะสมกับศักยภาพ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 78 ของพื้นที่ทั้งหมด ได้ถูกกำหนดเป็นพื้นที่สีเขียว พื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่อนุรักษ์
การมีส่วนร่วมของชุมชน รับฟังความคิดเห็นแล้ว 40 ครั้ง
สกพอ. ร่วมกับ กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ประชาชน ชุมชนที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานในพื้นที่ โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ อย่างเป็นทางการกว่า 25 ครั้ง และเวทีที่ไม่เป็นทางการกว่า 15 ครั้ง รวมไม่ต่ำกว่า 40 ครั้ง โดยได้นำความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ มาปรับปรุงแก้ไข แผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังกล่าวย้ำถึง เรื่องการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) ที่ทาง อีอีซีได้ให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างถูกต้อง เนื่องจากเป็นการขับเคลื่อนงาน ภายใต้บริบทที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ และยอมรับ กับ การพัฒนาอย่างยั่งยืน
