Economics

‘จุลพันธ์’ โวย! ‘ป.ป.ช.’ ให้ความเห็นเกินหน้าที่ ยันเดินหน้า ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ต่อ

“จุลพันธ์” โวย! “ป.ป.ช.” ให้ความเห็นเกินหน้าที่ ยันเดินหน้า “ดิจิทัลวอลเล็ต” ต่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่การสงเคราะห์

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับเอกสารรายงานความเห็นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่องโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท อย่างเป็นทางการ แต่ก็ได้รับทราบในรายละเอียดแล้ว

ดิจิทัลวอลเล็ต

“สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ แม้จะเป็นการให้ความเห็น ตามหน้าที่ตามกฎหมาย มาตรา 32 ของ พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แต่กฎหมายกำหนดให้แค่ การให้ความเห็นเพื่อป้องกันการทุจริต แต่ความเห็นดังกล่าว เป็นเหมือนการท้วงติงที่เกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.” นายจุลพันธ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม หากเอกสารฉบับทางการมาถึง รัฐบาลก็จะนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งบางประเด็นตอบได้ง่าย อาจเป็นเพราะความไม่เข้าใจ หรือได้ข้อมูลไม่ครบถ้วนของ ป.ป.ช. ทั้งแหล่งที่มาของเงิน เปลี่ยนจากงบประมาณเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน และการใช้ระบบบล็อคเชนในการดำเนินโครงการ ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถชี้แจงได้

นายจุลพันธ์ ยังยืนยันว่า กลุ่มเป้าหมายของโครงการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยังคงเป็นกลุ่มเดิม ส่วนที่ดูเหมือน ป.ป.ช. จะเสนอว่าให้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ต้องขอชี้แจงว่า ปัจจุบันได้เปลี่ยนรัฐบาลแล้ว และกลไกของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาและกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ เป็นเพียงแค่การหยอดน้ำข้าวต้ม แต่จำเป็นต้องมีกลไกในการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ครั้งนี้ออกมา

ดิจิทัลวอลเล็ต
นายนิวัติไชย เกษมมงคล ป.ป.ช.

ทั้งนี้ แนวคิดในการทำนโยบาย เป็นของรัฐบาลซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบต่อประชาชน ในขณะที่บางหน่วยงานไม่จำเป็นต้องตอบรับต่อเสียงสะท้อนของประชาชน หากเศรษฐกิจดำดิ่งยิ่งกว่าในปัจจุบัน คนที่รับผิดชอบคือรัฐบาล รัฐบาลจึงต้องแสดงความชัดเจน รัฐบาลมีหน้าที่ในการเดินหน้านโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภา และบรรจุเป็นนโยบายของรัฐ โดยเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย

“ยังไม่ขอยืนยันว่า จะเริ่มแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตได้เมื่อไหร่ พอไปกะเกณฑ์แล้วทำไม่ได้ จะไม่เป็นผลดี แต่ขอยืนยันว่าเดินหน้าโครงการแน่นอน” รมช.คลัง กล่าว

ส่วนที่ ป.ป.ช. ขอให้ กกต. ตรวจสอบการดำเนินโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทของรัฐบาลว่าไม่ตรงกับแนวนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ เข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 นายจุลพันธ์ เปิดเผยว่า ไม่กังวลในเรื่องนี้ เพราะรัฐบาลที่แล้ว แทบจะไม่มีการทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้เลย ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็เคยท้วงติงในเรื่องนี้ ในส่วนรัฐบาลปัจจุบัน อย่างน้อยก็ได้ทำตามนโยบายที่ได้บอกไว้ แม้รูปแบบจะเปลี่ยนบ้าง

ดิจิทัลวอลเล็ต

“นโยบายที่พรรคการเมืองนำส่ง กกต. จะมีการระบุไว้ว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจและสังคม เพราะเมื่อความเหมาะสมเปลี่ยน และขณะนี้การดำเนินโครงการดังกล่าวไม่ใช่นโยบายของพรรคการเมือง แต่เป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งประกอบขึ้นจากพรรคการเมืองหลายพรรค จะยึดนโยบายของพรรคใดพรรคหนึ่งไม่ได้ จำเป็นต้องนำมาผสมผสาน เพื่อให้เกิด ความลงตัวและเดินหน้าได้” นายจุลพันธ์ กล่าว

ส่วนที่มีนักร้องเตรียมจะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หากรัฐบาลเดินหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ประเทศไทยนักร้องเยอะอยู่แล้ว เชื่อว่าถึงอย่างไรก็จะคนหยิบยกเรื่องนี้ ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และต้องการให้รัฐบาลเดินหน้าต่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลก็จะเดินหน้า ขอย้ำว่าโครงการดังกล่าวเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ใช่การสงเคราะห์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK