Economics

11 เดือนปี 66 ยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 0.9% ขณะที่ยอดนำเข้าน้ำมันพุ่ง 5.7%

“กรมธุรกิจพลังงาน” เผยยอดใช้น้ำมันเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 อยู่ที่ 152.24 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นแค่ 0.9% ขณะที่ยอดนำเข้าน้ำมันพุ่ง 5.7%

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดี กรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2566 แยกออกเป็น การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 3.7% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.1 และการใช้ LPG เพิ่มขึ้น 0.6% ขณะที่น้ำมันเตา น้ำมันกลุ่มดีเซลและ NGV มีการใช้ลดลง 15.2%  5.2% และ 1.5% ตามลำดับ

ยอดใช้น้ำมัน

กลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.54 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.7% การใช้แก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17.93 ล้านลิตร/วัน และแก๊สโซฮอล์ อี20 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.89 ล้านลิตร/วัน ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ อี85 และเบนซิน ลดลงมาอยู่ที่ 6.78 ล้านลิตร/วัน 0.16 ล้านลิตร/วัน และ 0.46 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ

ทั้งนี้ การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 ที่ 31.8% และ 3.2%ตามลำดับ จากนโยบายปรับลดราคาน้ำมันเบนซินลงทุกประเภทเป็นระยะเวลา 3 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2567 เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน โดยแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 2.50 บาท/ลิตร เบนซินและแก๊สโซฮอล์ 95 ลดลง 1 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ อี20 และแก๊สโซฮอล์ อี85 ลดลง 80 สตางค์/ลิตร จากการลดภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันกลุ่มเบนซิน และการใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

กลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 68.83 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.2% โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 และน้ำมันดีเซลพื้นฐาน ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 0.80 ล้านลิตร/วัน 0.15 ล้านลิตร/วัน และ 3.76 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ขณะที่น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.9% เฉลี่ยอยู่ที่ 64.12 ล้านลิตร/วัน แต่เมื่อพิจารณาจากช่วงเดือนที่ผ่านมาปริมาณการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ยอดใช้น้ำมัน

ทั้งนี้ ภาครัฐยังคงมาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซล โดยใช้มาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 2.50 บาท/ลิตร ตามชนิดของน้ำมันดีเซล และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะเข้าไปชดเชยเพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 และเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 เพื่อช่วยค่าครองชีพประชาชน

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 13.28 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 56.1% เนื่องจากการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยว ประกอบกับรัฐบาลได้มีการประกาศใช้นโยบายฟรีวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยวประเทศจีนและคาซัคสถาน รวมระยะเวลา 5 เดือน และเพิ่มเติมประเทศอินเดียและไต้หวันรวมระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะช่วยสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางทางอากาศยานเพิ่มมากขึ้น

การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 17.79 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.6% โดยการใช้ภาคขนส่งเพิ่มขึ้น 3.8% อยู่ที่ 2.26 ล้าน กก./วัน ภาคปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น 0.8% อยู่ที่ 7.80 ล้าน กก./วัน และการใช้ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น 0.02% เฉลี่ยที่ 5.72 ล้าน กก./วัน และภาคอุตสาหกรรมลดลง 1.6% มาอยู่ที่ 2.01 ล้าน กก./วัน

การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.34 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.5% ทั้งนี้ สถานการณ์ราคา NGV ที่มีการปรับตัวสูงขึ้น 1 บาท/กก. จาก 18.59 บาท/กก. เป็น 19.59 บาท/กก. โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา

ในขณะที่ การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,049,338 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.7% คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 97,253 ล้านบาท/เดือน โดยเป็นการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 973,486 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 5.7% คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 91,579 ล้านบาท/เดือน สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) อยู่ที่ 75,852 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 5.3% คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 5,674 ล้านบาท/เดือน

การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกอยู่ที่ 178,232 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 12.5% คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 18,780 ล้านบาท/เดือน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK