Economics

ทอท. เตรียมพร้อม 6 สนามบิน รับเดินทางท่องเที่ยวฤดูหนาว คาด 5 เดือน มีผู้โดยสารรวม 51 ล้านคน

ทอท. เตรียมพร้อม 6 สนามบิน รับเดินทางท่องเที่ยวฤดูหนาว คาด 5 เดือน มีผู้โดยสารรวม 51 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 20% ส่วนปี 67 แนวโน้มเติบโต

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กระทรวงคมนาคม ประมาณการปริมาณผู้โดยสารในช่วงการเดินทางท่องเที่ยวฤดูหนาว (Winter Schedule) ประจำปี 2567 คือ ประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 – ถึงเดือนมีนาคม 2567 ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่

เดินทางท่องเที่ยว

ไฮซีซั่น 5 เดือน คาดผู้โดยสาร 51 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20.32%

จะมีผู้โดยสารรวมประมาณ 51.11 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 21.57 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.75% และผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 29.54 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.96%

โดยในปีงบประมาณ 2567 (เดือนตุลาคม 2566 – กันยายน 2567) AOT คาดว่าปริมาณผู้โดยสารยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ซึ่งจะมีผู้โดยสารเดินทางผ่านท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ประมาณ 119.78 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.71% แบ่งเป็นผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 49.48 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.2% และผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 70.30 ล้านคน เพิ่มขึ้น 30.41%

เดินทางท่องเที่ยว

ทั้งนี้ จากการประมาณการผู้โดยสารดังกล่าว สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่เกิดขึ้นจริงของเดือนพฤศจิกายน 2566 (ข้อมูลเกิดจริง 20 วัน รวมกับคาดการณ์ 10 วัน) โดยมีปริมาณผู้โดยสารรวม 9.53 ล้านคน แบ่งเป็นผู้โดยสารภายในประเทศ 4 ล้านคน และผู้โดยสารระหว่างประเทศ 5.53 ล้านคน

ซึ่งแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสาร โดยเฉพาะผู้โดยสารระหว่างประเทศ รวมทั้งมาตรการต่างๆ ของภาครัฐที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น มาตรการ Visa Free ที่กระตุ้นให้มีการเดินทางของผู้โดยสารเพิ่มขึ้น โดยปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่มีมาตรการ Visa Free เป็นผู้โดยสารสัญชาติจีนจำนวนเฉลี่ยวันละ 16,800 คน เพิ่มขึ้น 27.3% เมื่อเทียบกับก่อนมีมาตรการ

ชาวคาซัคสถานจำนวนเฉลี่ยวันละ 560 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 143.5 ชาวอินเดียจำนวนเฉลี่ยวันละ 6,000 คน เพิ่มขึ้น 17.6% และชาวไต้หวันจำนวนเฉลี่ยวันละ 4,500 คน เพิ่มขึ้น 18.4%

นอกจากนี้ ปริมาณผู้โดยสารรายสัญชาติ ณ ท่าอากาศยาน 6 แห่งของ AOT เมื่อปีงบประมาณ 2566 (เดือนตุลาคม 2565 – กันยายน 2566) พบว่าผู้โดยสารชาวจีนยังคงมีจำนวนสูงสุดเมื่อเทียบกับสัญชาติอื่น โดยมีจำนวน 5.33 ล้านคน รองลงมาคือ สัญชาติอินเดียจำนวน 3.26 ล้านคน เกาหลีใต้จำนวน 3.07 ล้านคน มาเลเซียจำนวน 2.21 ล้านคน และรัสเซียจำนวน 2.2 ล้านคน

เดินทางท่องเที่ยว

ปี 67 นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากมาตรการ Visa Free

การเดินทางท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง Winter Schedule และในปี 2567 นี้สืบเนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาลที่ได้มีมาตรการ Visa Free ซึ่งจะกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ผลักดันให้เกิดรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ

โดย AOT มีความพร้อมดำเนินการตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้กำชับ AOT และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนที่ให้บริการในท่าอากาศยาน ให้บูรณาการความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับผู้โดยสารที่จะเดินทางมายังประเทศไทย

ทั้งในด้านของการจัดพื้นที่ให้เพียงพอต่อปริมาณผู้โดยสาร การจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น รถเข็นกระเป๋าสัมภาระ การนำเทคโนโลยีเข้ามาลดความแออัดภายในอาคารผู้โดยสาร รวมไปถึงการจัดเจ้าหน้าที่คอยให้บริการและอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะบริเวณเคาน์เตอร์เช็กอิน จุดตรวจค้นและจุดตรวจหนังสือเดินทางให้ AOT ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้เกิดภาพความหนาแน่น เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถผ่านกระบวนการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และได้รับความสะดวกสบายเทียบเท่าท่าอากาศยานชั้นนำระดับโลก

Screenshot 2023 12 08 234002

ปรับปรุงประสิทธิภาพ อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า AOT เร่งดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด โดยได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมกัน เพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการให้บริการผู้โดยสาร โดยเฉพาะกระบวนการผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ให้มีความสะดวก และรวดเร็ว

ที่ผ่านมา AOT ได้เปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1: SAT-1) และปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 ซึ่งมีแผนจะเปิดใช้งานในเดือนกรกฎาคม 2567 โดยจะทำให้ ทสภ.มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ถึง 80 ล้านคนต่อปี

นอกจากนี้ AOT ยังอยู่ระหว่างการดำเนินโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกของอาคารผู้โดยสาร (East Expansion) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการผู้โดยสาร และในส่วนของกระบวนการเช็กอิน ได้แก้ปัญหาโดยการติดตั้งระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Passenger Processing System: CUPPS) ได้แก่ บริการตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Terminal Equipment: CUTE) บริการเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service: CUSS) และบริการรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop: CUBD) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้โดยสารในการลดเวลารอคอยคิว

เดินทางท่องเที่ยว

สำหรับบริเวณจุดตรวจหนังสือเดินทาง จะปรับปรุงพื้นที่ตรวจลงตราคนเข้าเมือง (ตม.) ขาออก ชั้น 4 อาคารผู้โดยสาร ทสภ.โดยจะทำการติดตั้งเครื่อง Automated Border Control (ABC) มาใช้แทนการตรวจลงตราโดยเจ้าพนักงานดังเช่นสนามบินชั้นนำทั่วโลก ทำให้สามารถปรับปรุงพื้นที่เคาน์เตอร์ ตม.เดิมเป็นพื้นที่จุดตรวจค้นผู้โดยสารเพิ่มเติมได้อีก

ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การนําระบบ CUPPS มาใช้ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว ลดระยะเวลาการรอคอย และเพิ่มความถูกต้องแม่นยำมากยิ่งขึ้นจากการใช้บริการผ่านระบบ รวมทั้งเพื่อลดความหนาแน่นในบริเวณอาคารผู้โดยสาร ซึ่งส่งผลให้ AOT มีภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น จึงเป็นเหตุที่ขอปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge: PSC)

สำหรับผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โดยปรับจาก 700.- บาทต่อคน เป็น 730.- บาทต่อคน และค่า PSC สำหรับผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ปรับจาก 100.- บาทต่อคน เป็น 130.- บาทต่อคน โดยจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo