นายกฯ ปลื้ม จีนตั้ง “ศูนย์วิจัยเทคโนโลยียานยนต์” แห่งที่ 4 ของโลก ในไทย หวังดึงนักลงทุนจากจีนเข้าไทยมากขึ้น
วันที่ 8 ธันวาคม 2566 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นพื้นที่สำหรับจัดตั้งศูนย์วิจัยเทคโนโลยียานยนต์จีน (China Automotive Technology and Research Center : CATARC) โดยเป็นสำนักงานสาขาในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แห่งที่ 4 ของโลก ต่อจากเยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ และญี่ปุ่น
ถือเป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือระหว่างจีนกับไทย ในการนำศักยภาพด้านการพัฒนานโยบาย การกำหนดมาตรฐาน และการรับรอง รวมถึงเครือข่ายอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ของจีน มาบูรณาการร่วมกับการพัฒนาอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ของไทย รองรับการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ของภูมิภาคอาเซียน และฐานการผลิตที่สำคัญของโลก
ศูนย์ CATARC ทำให้นักลงทุนจีนเข้าไทยมากขึ้น
ศูนย์ CATARC จะเป็นตัวกลางในการประสานงานกับผู้ผลิต EV ในจีน ในการเข้ามาลงทุนในไทย และในภูมิภาค รวมทั้งยังเป็นองค์กรสนับสนุนด้านเทคนิคสำหรับการวางแผนอุตสาหกรรมยานยนต์อีกด้วย ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ประกอบการ หรือนักลงทุนทางด้าน EV ของจีนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น
อีกทั้งเป็นโอกาสต่อยอดการพัฒนายานยนต์ของไทย สู่ยานยนต์สมัยใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นโอกาสพัฒนาคุณภาพแรงงานไทยอีกด้วย
ผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรม จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องยนต์สันดาป (ICE) ในการขับเคลื่อนนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ผ่านคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ
โดยมีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ สอดคล้องกับมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งได้กำหนดมาตรฐานสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และมีการให้บริการทดสอบรับรองมาตรฐานของศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ รวมทั้งการพัฒนาบุคลากร เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า และยานยนต์สมัยใหม่
ซึ่งในไตรมาสแรกของปี 2566 ประเทศไทยมีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า คิดเป็น 78% ของปริมาณการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน และในปี 2565 ประเทศไทยมีการผลิตยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า หรือ xEV เป็นอันดับ 1 ของอาเซียนประมาณ 72,000 คัน
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ได้ผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเเนวทางสำคัญของไทยสู่การเปลี่ยนผ่านไปใช้ยานยนต์สมัยใหม่ เเละการเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต รวมทั้งช่วยเพิ่มทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเเละประหยัดพลังงาน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กับการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สุริยะ’ หารือ VietJet Air ร่วมมือด้านการบิน การค้า การท่องเที่ยว พัฒนาอุตสาหกรรมการบินของไทย
- เปิดยอดจดทะเบียน ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ปี 66 กว่า 7.3 หมื่นคัน เพิ่มขึ้น 399%
- บอร์ดอีวี ขยายเวลาอุดหนุนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเป็น 31 ม.ค.67 พร้อมไฟเขียวมาตรการ ระยะ 2 ปี 67-70