นายกฯ ขนทัพ 20 ผู้ประกอบการไทย ลุยเอเปค ชักชวนลงทุน 3 อุตสาหกรรมในไทย ตั้งเป้า 4 ปีดึงเข้าไทย 100 บริษัท
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางเข้าร่วมการประชุมเอเปก ณ นครซานฟานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวถึงกิจกรรมที่นายกรัฐมนตรีเยือนสหรัฐอเมริกา มี 2 ส่วน คือ นายกฯ จะพบปะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเป้าหมายในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ดิจิทัล และ EV
และได้นำผู้ประกอบการไทยประมาณ 20 คน ที่ร่วมเดินทางมาด้วย ได้พบกับบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ เพื่อสร้างศักยภาพความร่วมมือในอนาคต เช่น การพบปะของบริษัท 3 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เช่น tesla ต่อยอดจากที่เคยพบปะกันที่นิวยอร์ก โดยพูดคุยและติดตามผล เนื่องจากไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค
อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
นายนฤตม์ กล่าวว่า ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มียอดจดทะเบียนรถอีวีมากกว่า 6,000 คัน เพิ่มขึ้น 7 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาค ทำให้ไทยเป็นที่ดึงดูดของค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศต่างๆ ต้องการเข้ามาเปิดตลาดลงทุนในประเทศไทย
นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ซึ่งมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ยังเห็นชอบมาตรการต่อเนื่องจากอีวี 3 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทย ที่ต้องการให้ไทยเป็นผู้นำของภูมิภาคในการเป็นฐานผลิตอีวีและเป็นท็อปเท็นของโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ไทยสามารถสร้างความมั่นใจ ดึงนักลงทุนให้มาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นได้
data center และคลาวด์ เซอร์วิส
ด้าน data center และคลาวด์ เซอร์วิส จะได้พบกับบริษัทสำคัญ เช่น บริษัท AWS บริษัท Google และบริษัท ไมโครซอฟต์ โดยบริษัทแอมะซอนที่ประกาศร่วมลงทุนในไทยในต้นปีหน้า ลงทุนไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกือบ 200,000 ล้านบาท ระยะแรกลงทุนสร้าง data center 3 แห่ง เฟสแรกประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นว่าบริษัทต้องการร่วมทุนรัฐบาลไทยที่สนับสนุน
ส่วนบริษัท Google และบริษัทไมโครซอฟต์ เป็นบริษัทที่นายกฯ ได้พบที่นิวยอร์ก และทำงานกันต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้เป็นรูปธรรม และพยายามดึงดูดให้บริษัทเหล่านี้เข้ามาตั้งฐาน data center และคลาวด์ เซอร์วิสในไทย รวมถึงมาช่วยยกระดับเรื่องดิจิทัลอินฟอร์เมชัน รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัล ซึ่งย้ำว่าไทยจะพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะดึงบริษัทเหล่านี้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยให้ได้
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ นายเศรษฐา และผุ้ประกอบการไทย จะพบบริษัท ADI บริษัท HP ซึ่งให้ความสนใจในประเทศไทย โดยเฉพาะสมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งที่ผ่านมาไทยเป็นการผลิตกลางน้ำ รัฐบาลจึงมีเป้าหมายยกระดับไปสู่ต้นน้ำมากขึ้น โดยไทยมีจุดแข็งที่มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมมากที่สุดในภูมิภาค และซัพพลายเชนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่มีผู้ผลิตชิ้นส่วนกว่า 2,000 ราย ที่มีทักษะสูง มีประสบการณ์ทำงานกับบริษัทระดับโลกมาหลาย 10 ปี
โดยบอร์ดบีโอไอตั้งเป้าภายใน 4 ปี จะดึงบริษัทชั้นนำไม่น้อยกว่า 100 บริษัท ไปตั้งในประเทศไทย เพื่อให้เกิดการจ้างงานที่มีคุณค่าสูงกว่า 10,000 ตำแหน่ง
ปัจจุบันมีบริษัทชั้นนำที่ใช้เมืองไทยเป็นฐานมากมาย เช่น agoda ที่มีพนักงานอยู่ 3,000 คนในประเทศไทย เป็นต่างชาติ 2,000 คน และคนไทย 1,000 คน โดยมีการพัฒนาที่ประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีบริษัท บิชชิน ฮิตาชิ ก็มีฐานที่ประเทศไทย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นายกฯ มั่นใจ นักลงทุนสหรัฐสนใจ ‘แลนด์บริดจ์’ ข้อเสนอดีทั้งมาตรการทางภาษีและโครงสร้างพื้นฐาน
- ‘สุริยะ’ นำทีมจัดงาน ‘ไทยแลนด์ แลนด์บริดจ์ โรดโชว์’ 13 พ.ย. หวังดึงนักลงทุนสหรัฐ
- ‘สุริยะ’ เตรียมโรดโชว์ ‘แลนด์ บริดจ์’ ในการประชุมเอเปก เชื่อมั่นนักลงทุนสนใจ