Economics

แรงงาน มีมติขยายเวลา ‘แรงงานต่างด้าว’ ที่ยื่นรายชื่อแล้ว ทำงานในไทยได้ถึง 13 ก.พ. ชงครม.พิจารณา

แรงงาน มีมติขยายเวลา “แรงงานต่างด้าว” ที่ยื่นบัญชีรายชื่อแล้ว ทำงานในไทยได้ถึง 13 ก.พ. 68 และ “แรงงาน MOU” อยู่ต่อถึง 30 เม.ย. 67 ชงครม.พิจารณา

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) ครั้งที่ 4/2566 โดยมี นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้บริหารกรมการจัดหางาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีดำริให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริหารจัดการแรงงานต่างด้าวอย่างมีประสิทธิภาพ คำนึงประโยชน์ของนายจ้าง สถานประกอบการ ลูกจ้างแรงงานข้ามชาติทุกกลุ่มโดยไม่แบ่งแยก รวมทั้งคำนึงถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของแรงงานข้ามชาติ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์อย่างเหมาะสม ที่ประชุม คบต.

แรงงานต่างด้าว

ที่ประชุมเห็นชอบ 2 ข้อพิจารณา ดังนี้

  1. ผ่อนผันให้คนต่างด้าว ตามมติครม.เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ที่ยื่นบัญชีรายชื่อแจ้งความต้องการฯ ต่อกรมการจัดหางานแล้ว อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ และทำงานได้ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568
  2. ผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ที่เข้ามาทำงาน ตาม MOU ซึ่งวาระการจ้างงานครบ 4 ปี (ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 – 31 ธันวาคม 2566) อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษและทำงานเป็นการชั่วคราว ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567

แรงงานต่างด้าว

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมการจัดหางานประชาสัมพันธ์ความคืบหน้า และแนวทางการปฏิบัติตามมติครม.ให้นายจ้าง สถานประกอบการ และแรงงานข้ามชาติทราบอย่างทั่วถึง เพื่อสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง

และหลังจากนี้ขอความร่วมมือหน่วยงานด้านความมั่นคง ดำเนินการตรวจสอบ ปราบปราม จับกุม และดำเนินคดีนายจ้างที่ใช้แรงงานผิดกฎหมาย และลูกจ้างที่ลักลอบทำงานอย่างเคร่งครัด พร้อมกับขอให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งมาที่กระทรวงแรงงานหากพบการใช้แรงงานผิดกฎหมาย

แรงงานต่างด้าว

เตรียม 2 แนวทางการดำเนินการเสนอครม.

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางาน ได้เตรียมแนวทางการดำเนินการเสนอคณะรัฐมนตรี ดังนี้

  1. กลุ่มมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 นายจ้างจะต้องยื่นคำขออนุญาตทำงานและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมชำระค่าธรรมเนียม ภายในระยะเวลา 90 วัน นับจากวันที่ผ่อนผัน

และให้ดำเนินการจัดทำหนังสือเดินทาง (Passport) หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง/CIหรือTD และตรวจลงตรา (Visa) ให้แล้วเสร็จ ภายใน 13 กุมภาพันธ์ 2568 โดยให้ผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของแรงงานข้ามชาติกลุ่มดังกล่าว ที่มีอายุไม่เกินสิบแปดปีบริบูรณ์ และได้แจ้งรายชื่อไว้ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 มีสิทธิอยู่ในราชอาณาจักรตามสิทธิของบิดาหรือมารดา

  1. แรงงาน MOU ที่วาระการจ้างงานครบ 4 ปี ให้นายจ้างยื่นบัญชีรายชื่อคนต่างด้าว พร้อมรูปถ่าย เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นนำแรงงานเข้ามาทำงานตาม MOU โดยให้เริ่มดำเนินการตามวัน เวลา ที่กรมการจัดหางานกำหนด ในระหว่างการผ่อนผันให้นายจ้างขออนุญาตนำแรงงานต่างด้าวที่ได้รับการผ่อนผันเข้ามาทำงานตาม MOU และให้แรงงานเดินทางกลับประเทศต้นทางและเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยในโอกาสแรกโดยไม่ต้องมีระยะเวลาพัก 30 วัน

แรงงานต่างด้าว

ทั้งนี้ ขอให้นายจ้าง สถานประกอบการที่ใช้แรงงานข้ามชาติ ติดตามข่าวสารจากกรมการจัดหางานอย่างใกล้ชิด กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางานจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบ ซึ่งหากผ่านความเห็นชอบจะเร่งยกร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย ประกาศกระทรวงแรงงานและประกาศที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จ เพื่อเป็นแนวทางให้นายจ้าง สถานประกอบการดำเนินการตามกฎหมาย แรงงานข้ามชาติได้รับความคุ้มครองตามสิทธิที่พึงมี ไม่เลือกปฏิบัติสอดคล้องตามหลักสิทธิมนุษยชน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo