Economics

กรมปศุสัตว์ ขานรับนโยบาย ‘ธรรมนัส’ เร่งกวาดล้าง ‘หมูเถื่อน’ ช่วยเกษตรกรไทย

อธิบดีกรมปศุสัตว์ ลั่น พร้อมขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของ “ธรรมนัส” ปราบปรามหมูเถื่อน กวาดล้างขบวนการทำลายชาติ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และปกป้องความปลอดภัยอาหารของคนไทย

นายสัตวแพทย์ สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ตามที่ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวง เร่งขับเคลื่อนแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรทุกด้านทันที

หมูเถื่อน

กรมปศุสัตว์ได้รับมอบหมายให้แก้ปัญหาหมูเถื่อน และการลักลอบนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ผิดกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบเกษตรกรเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านต้นทุน เกษตรกรต้องแบกรับภาระด้านต้นทุนที่สูง แต่ขายไม่ได้ราคา และยังเสี่ยงต่อการระบาดของโรคสัตว์ ทั้งยังส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยย้ำว่า ต้องปราบปรามอย่างจริงจังและเห็นผลภายใน 1-2 เดือน นั้น

กรมปศุสัตว์ เร่งดำเนินการทันทีตามนโยบาย โดยได้ประชุมด่วนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อเดินหน้าสานต่อการปราบปรามหมูเถื่อนที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น

หมูเถื่อน

นายสัตวแพทย์ สมชวน ระบุว่า การปราบปรามหมูเถื่อน เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง กรมปศุสัตว์ในฐานะหน่วยงาน ที่กำกับดูแลการผลิตสินค้าปศุสัตว์โดยตรง ได้ประกาศทำสงครามกับขบวนการหมูเถื่อน ที่สร้างความเสียหายให้เกษตรกรไทย ด้วยการดักจับทุกทิศทาง เพื่อกวาดล้างหมูผิดกฎหมายที่แทรกซึมอยู่ในประเทศ และกัดกร่อนสุขภาพของผู้บริโภคชาวไทยในวงกว้าง

ที่ผ่านมา บังคับใช้กฎหมายแล้ว 238 คดี รวมของกลาง 1,142 ตัน มูลค่ารวมกว่า 190 ล้านบาท และเตรียมทำลายของกลางครั้งใหญ่ในเดือนกันยายนนี้ และได้ยกระดับการทำงานให้เคร่งครัดขึ้น โดยเร่งรัดการปฏิบัติงานของวอร์รูมในทุกเขต และทุกจังหวัด ให้ดำเนินการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ และเสาร์-อาทิตย์ เพื่อปราบหมูเถื่อนให้สิ้นซากโดยเร็วที่สุด

หมูเถื่อน

อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยด้วยว่า ได้แต่งตั้งทีมเจ้าหน้าที่หน่วยสารวัตรปศุสัตว์ไซเบอร์ ทำหน้าที่สืบค้นข้อมูล และหาหลักฐานการกระทำความผิดกฎหมายทางด้านปศุสัตว์ทางช่องทางออนไลน์ รวมถึงมีมาตรการป้องกันการลักลอบ ณ ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยาน ด้วยภารกิจสารวัตรบีเกิล รวมถึงมาตรการลักลอบ ณ ด่านกักกันสัตว์ท่าเรือ ด้วยการเปิดตู้ตรวจสอบสินค้ำปศุสัตว์ 100% ที่ด่านขาเข้า

ตลอดจนตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และลาดตระเวนตามแนวชายแดน ซึ่งจะมีการดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิด โดยดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับขบวนการผิดกฎหมาย ตามพ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ มีบทลงโทษแรกคือ เนื้อสุกรที่จับได้จะถูกทำลายทิ้งทั้งหมด และคดีนี้เป็นคดีอาญา มีโทษทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งขึ้นอยู่กับการตัดสินของศาล

ส่วนกรณีห้องเย็น หากเคยขึ้นทะเบียนขอนำเข้าเนื้อสัตว์ไว้กับกรม และถูกตรวจพบการทำผิดกฎหมายเช่นนี้ กรมจะทำการเพิกถอนใบอนุญาตด้วย

หมูเถื่อน

สำหรับผลการปฏิบัติงานบังคับใช้กฎหมายในการลักลอบนําซากสุกร เข้าราชอาณาจักร ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2565 จนถึงปีงบประมาณ 2566 (ล่าสุดวันที่ 1 กันยายน 2566) ทั้งในส่วนของเนื้อสุกร เครื่องใน และชิ้นส่วน รวม 238 คดี จำนวนรวม 1,142,487 กิโลกรัม มูลค่ารวม 190,426,840 บาท มีการทำลายของกลางแล้ว 202 คดี จำนวนรวม 1,049,920 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 175,216,249 บาท

กรมปศุสัตว์ ได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรการเข้มงวดตรวจสอบการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกร ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) กระทรวงมหาดไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมศุลกากร กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานชายแดน ร่วมกันปราบปรามการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนเนื้อสุกรอย่างเด็ดขาด

หมูเถื่อน

เพื่อปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร และป้องกันเชื้ออหิวาต์แอฟริกาสุกร หรือ ASF ที่อาจปนเปื้อนมากับชิ้นส่วนสุกร รวมทั้งเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ซึ่งชิ้นส่วนสุกรที่ลักลอบนำเข้า ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากกรมปศุสัตว์ อาจมีสารตกค้าง เช่น สารเร่งเนื้อแดง หรือเชื้อโรคอื่นที่เป็นอันตรายต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรและผู้บริโภค

ขณะเดียวกัน ในประเด็นการลักลอบนำเข้าโค-กระบือมีชีวิต จากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงชิ้นส่วนเนื้อโค-กระบือนั้น กรมปศุสัตว์ ก็มีมาตรการปราบปรามอย่างเข้มงวดและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังมาโดยตลอด เพื่อปกป้องพี่น้องเกษตรกรจากขบวนการผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo