Economics

YLG คาดราคาทองปีนี้มีโอกาสทำนิวไฮรอบใหม่ ลุ้นทะลุ 2,079 ดอลลาร์

YLG เปิดตัว Get Gold แอปฯ เทรดทองเพื่อรายย่อย เพิ่มโอกาสนักลงทุนรุ่นใหม่ทำกำไรได้ 24 ชั่วโมง ประเมินราคาทองปีนี้มีโอกาสทำนิวไฮรอบใหม่ ลุ้นทะลุ 2,079 ดอลลาร์

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงต้นไตรมาส 2/2566 ที่ผ่านมาราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นไปอย่างร้อนแรงจนทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 2,079 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ทองคำได้รับความสนใจในฐานะทรัพย์สินปลอดภัย ทำให้นักลงทุนทุกกลุ่มติดต่อเข้ามาเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ เช่น กลุ่มคนเริ่มทำงาน นักเรียน นักศึกษา และคนทั่วไป ที่เริ่มให้ความสนใจลงทุนในทองคำ

ราคาทอง

จากความต้องการดังกล่าว YLG จึงได้นำไปต่อยอดจนสามารถเปิดให้บริการแอปพลิเคชัน Get Gold ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันซื้อ-ขายทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง และเข้าถึงง่ายผ่านปลายนิ้วด้วยสมาร์ตโฟน โดยผู้สมัครสามารถยืนยันตัวตนเพร้อมยื่นเอกสารผ่านแอปพลิเคชัน รู้อนุมัติได้ภายในวันเดียว และสามารถทำการซื้อ-ขาย ทองคำได้ทันที ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาท

“ขั้นตอนการเข้าถึงการลงทุนทองคำก่อนนี้อาจจะมีความซับซ้อน แต่ YLG ได้พัฒนาการให้บริการด้วยเทคโนโลยีเพื่อให้นักลงทุนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการลงทุนได้อย่างเท่าเทียมกัน ขั้นตอนการสมัครจบที่แอปพลิเคชัน ไม่ต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขา ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ยุคดิจิทัล ด้วยการแนบเอกสารการยืนยันตัวตนเพียง 2 อย่างคือ รูปถ่ายบัตรประชาชาน สมุดบัญชีเงินฝาก และทำการยืนยันตัวตนด้วยการถ่ายรูปคู่บัตรประชาชน สำหรับผู้ที่สมัครผ่านแล้ว สามารถทำการซื้อขายได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งในแต่ละวันแล้วสามารถถอนเงินออกมา หรือจะสะสมจนครบ 1 กรัม แล้วทำการขายเพื่อแลกเป็นทองคำแท่งก็สามารถเลือกได้ตามความต้องการ สามารถเลือกได้ทั้งทอง 96.5% และ 99.99% โดยทาง YLG ได้ร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยในการบริการส่งทองคำถึงหน้าบ้าน พร้อมทำประกันเรื่องความปลอดภัยในการส่ง” นางพวรรณ์ กล่าว

ราคาทอง

นอกจากนี้ ยังพบว่าพฤติกรรมนักลงทุนรุ่นใหม่ไม่สนใจลงทุนในทองคำกายภาพ แต่จะเน้นลงทุนผ่านดิจิทัลมากกว่า ดังนั้น YLG จึงพัฒนาบริการเพื่อมาตอบโจทย์กลุ่มนักลงทุนหน้าใหม่และกลุ่มรายย่อย ที่จะเติบโตเป็นนักลงทุนมืออาชีพต่อไปในอนาคต โดยแอปฯ Get Gold เปิดให้ลงทุนเริ่มที่ 100 บาท ไปจนถึง 80 กิโลกรัมต่อหนึ่งวัน ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้อ-ขายได้อย่างไร้ขีดจำกัด ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ที่ app store และ play store หรือโทร02 678 9888#1

ส่วนแนวโน้มทองคำในช่วงนี้ ราคาปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง YLG มองว่า แม้ว่าจะมีแรงซื้อสลับเข้ามาบ้าง แต่หากราคาปรับตัวขึ้นในระดับจำกัดราคามีโอกาสอ่อนตัวลงต่อในช่วงสั้น แนะนำพิจารณาโซน 1,948-1,965 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในการแบ่งทองคำออกขาย

ราคาทอง

ขณะที่การเข้าซื้อคืนให้รอการปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับโซน 1,914-1,891 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมองทิศทางทองคำระยะสั้นแกว่งตัวลง (Sideway down) อย่างไรก็ตาม ระยะกลาง-ยาวทิศทางราคาทองคำมีการแกว่งตัวในลักษณะแกว่งตัวขึ้น (Sideway) แนะนำนักลงทุนสามารถทยอยเข้าซื้อทองคำ เมื่อราคาอ่อนตัวลง ทดสอบแนวรับสำคัญต่าง ซึ่งเป็นจุดที่สามารถทยอยสะสมเพิ่มเติม โดยประเมินแนวรับโซน 1,891-1,804 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้ประเมินว่า ราคายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 2,048-2,079 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง

ส่วนทองคำในประเทศมองกรอบการเคลื่อนไหวของราคาระยะกลาง-ยาว โดยมีแนวรับบริเวณ 31,000-29,500 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้าน โซน 33,500-34,000 บาทต่อบาททองคำ (หมายเหตุ : ราคาทองคำแท่ง 96.5% คำนวณ อัตราแลกเปลี่ยน ณ ระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์) อย่างไรก็ตาม แม้ราคาในระยะสั้นจะปรับตัวลงมา แต่เชื่อว่าภายในปีนี้ทองคำจะทำนิวไฮรอบใหม่แน่นอน เพราะปัจจัยกดดันเศรษฐกิจยังมีอยู่ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจถดถอย จึงมองว่าทองคำปีนี้มีโอกาสทะลุ 2,079 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์อีกครั้ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK