‘YLG’ เปิด 4 ปัจจัยหนุนราคาทองปีนี้ทำนิวไฮอีกรอบ ชี้ภาพใหญ่ราคาพุ่งยาว แนะหาจังหวะเก็บเข้าพอร์ตเมื่อราคาอ่อนตัวแตะ 1,999-1,976 ดอลลาร์ต่อออนซ์
YLG ประเมินทิศทางทองคำช่วงที่เหลือของปียังโดดเด่น แม้ราคาปีนี้ปรับตัวขึ้นมามากแล้ว ทำจุดสูงสุดที่ 2,079 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ แต่ปัจจัยหนุนยังแน่นทั้งด้านพื้นฐานและเทคนิค ทั้งอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นที่เริ่มสิ้นสุด วิกฤตการเงินรอบใหม่ยังน่าจับตา เพดานหนี้สหรัฐที่สูงจนน่าวิตก และความขัดแย้งชาติมหาอำนาจก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องติดตาม แนะนักลงทุนสามารถหาจังหวะเข้าซื้อทองได้เมื่อราคาอ่อนตัวแตะ 1,999-1,976 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ลุ้นทำราคาสูงสุดใหม่
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า เปิดเผยว่า ในปีนี้ราคาทองคำแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้นและได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 2,079 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ แต่แนวโน้มราคาทองปีนี้ก็ยังมีโอกาสที่ทองคำจะไปสร้างสถิติทำราคาสูงสุดใหม่อีกครั้ง ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีหรือเร็วกว่านั้น
ทั้งนี้ เนื่องจากช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนทองคำทั้งด้านปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค ซึ่งแนวโน้มการปรับตัวขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับภาพใหญ่ ที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 แม้ระหว่างทางมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยแต่ภาพใหญ่ยังปรับขึ้น
สำหรับปีนี้ปัจจัยสนับสนุนให้ทองคำมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง หลัก ๆ มี 4 ปัจจัย ประกอบด้วย
ปัจจัยหลักหนุนราคาทอง
- อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดในช่วงปีกว่า ๆ ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาบ้าง เพราะผลตอบแทนเงินฝากอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว เพราะในปีนี้นโยบายดอกเบี้ยขาขึ้นเริ่มกระทบต่อระบบเศรษฐกิจจนทั่วโลกเริ่มจับตา ซึ่งหากหมดยุคอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น จะส่งผลดีต่อทองคำทันที
- ความกังวลวิกฤตการเงินรอบใหม่ แม้ว่าปีนี้เป็นปีที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง แต่เงินฝากปัจจุบันต่ำกว่าปี 2551 ซึ่งมีวิกฤตการเงินสหรัฐ แต่ในปีนี้ประเด็นการปิดตัวของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในสหรัฐยังคงเป็นที่จับตาว่าจะลุกลามไปสู่วิกฤตการเงินครั้งใหม่หรือไม่ ทองคำจึงถูกมองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เป็นที่พักเงินที่ดี
- เพดานหนี้ของสหรัฐอยู่ในเกณฑ์สูงจนน่าเป็นห่วง ประเด็นนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถชำระหนี้ของสหรัฐ อีกทั้งการจัดเก็บภาษีของสหรัฐปีล่าสุดก็ทำได้แค่ 35% หากการจัดเก็บของปีนี้ยังอยู่ในอัตราเดิมอาจส่งผลกระทบภาพรวม
- ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาอำนาจยังไม่น่าไว้วางใจ ทั้งฝั่งของจีนและสหรัฐ รวมถึงความขัดแย้งรัสเซีย ยูเครน ที่ยังต้องติดตามต่อไป
สำหรับคำแนะนำนักลงทุน YLG ประเมินว่าปีนี้มีโอกาสที่ราคาทองคำจะทำจุดสูงสุดใหม่ จึงแนะนำว่าหากราคาทองคำปรับตัวลงมาในระดับ 1,999-1,976 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ สามารถเข้าซื้อสะสมได้ ส่วนราคาทองคำในประเทศมองว่าหากราคาลงมาเต็มที่แถว ราคา 31,900-31,550 บาทต่อบาททองคำ (คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 33.70 บาทต่อดอลลาร์) สามารถเข้าซื้อสะสมได้
ทั้งนี้วายแอลจียังเพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนด้วยการจับมือกับ CME Group ตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐครอบคลุมบริการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าครบวงจร เพิ่มทางเลือกให้ที่สนใจลงทุนในตลาดล่วงหน้าที่มีสินค้าให้เลือกลงทุนอย่างครบถ้วน ทั้งสินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงิน หุ้น ไปจนถึงสินทรัพย์ดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนการลงทุน สำหรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนทองคำในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทุกรูปแบบ สามารถดูรายละเอียดได้ทาง www.ylgfutures.co.th หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-687-9999
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- YLG เผยพอร์ตออมทองพุ่งแรง แนะจับจังหวะทองพักฐานสะสม กลาง-ยาวไปได้ต่อ!
- YLG เผยราคาทองคำในประเทศทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ลุ้นพุ่งแตะ 33,100 บาท
- YLG เผยราคาทองคำแรงต่อเนื่อง! หลังกลุ่มแบงก์สหรัฐส่อเค้าเกิดวิกฤติ!
