Economics

‘ธปท.’ มองนโยบายหาเสียงลดแลกแจกแถม กระตุ้นเศรษฐกิจแค่ระยะสั้น!

“ผู้ว่าฯ ธปท.” คาด GDP ไทยปีนี้ขยายตัว 3.6% มองนโยบายหาเสียงลดแลกแจกแถม กระตุ้นเศรษฐกิจแค่ระยะสั้น หวั่นตัวเลขหนี้ครัวเรือนอาจเพิ่มขึ้น

ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเจอวิกฤติจากหลายปัจจัย เริ่มจากการแพร่ระบาดของโควิดส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงัก ขณะที่จีดีพีของไทยปี 2563 หดตัวอยูที่ 6.1% ปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้เงินเฟ้อไทยเพิ่มขึ้นสูงสุด 7.9% ในเดือนสิงหาคม 2565

ธปท.

ขณะที่ธนาคารกลางหลักพร้อมใจกันขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลค่าเงินบาทอ่อนค่าที่สุดในรอบ 16 ปี อยู่ที่ 38.40 บาท/ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 และปัญหาภาคธนาคารในต่างประเทศ ซึ่งระบบการเงินไทยได้รับผลกระทบในวงจำกัด โดย ธปท. ยังจับตาความผันผวนของตลาดการเงินโลกอย่างต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2566 มองว่า เศรษฐกิจไทยได้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติมาแล้ว ขณะนี้อยู่ในทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่าช่วงครึ่งหลังของปีจะเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก ทั้งนี้ คาดว่าครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไทยจะเติบโตอยู่ที่ 2.9% และครึ่งปีหลังอยู่ที่ 4.3% ภาพรวมทั้งปีอยู่ที่ 3.6% โดยปัจจัยหลักที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าตลอดทั้งปีจะแตะ 28 ล้านคน และการบริโภคภาคเอกชน

ธปท.

ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าครึ่งปีแรกคาดว่าจะติดลบ และกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่รายได้เกษตรกรในช่วงครึ่งปีหลังจะติดลบเนื่องจากปีที่ผ่านมาราคาสินค้าเกษตรปรับตัวขึ้นสูงมาก จึงเข้าสู่ช่วงปรับลดลง ขณะที่เงินเฟ้อคาดอยู่ที่ 2.9% อย่างไรก็ตาม ยังกังวลหนี้ครัวเรือนมองว่าปีนี้จะอยูที่ 86.9% ซึ่งยังอยู่ในระดับสูง แต่ยังมั่นใจว่าจะไม่ลุกลามถึงระบบเสถียรภาพการเงินโดยรวม

ส่วนการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นนั้น หลายพรรคการเมืองประกาศนโยบายหาเสียง ลดแลกแจกแถมนั้น หากได้รับเลือกตั้งและมีการนำมาใช้จริง มองว่าเป็นเพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ได้ผลเพียงชั่วคราวและจะเกิดผลกระทบตามมา ตัวเลขหนี้ครัวเรือนอาจเพิ่มขึ้น และยังมีค่าเสียโอกาส อยากเสนอทางเลือกเพิ่มเติมว่าควรนำทรัพยากรที่มีไปบริหารจัดการในภารกิจที่เหมาะสมกับเศราฐกิจของประเทศ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo