Economics

เตือน! ยื่นอุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐต้องดำเนินการภายใน 1 พฤษภาคมนี้

“กระทรวงการคลัง” อัปเดตความคืบหน้า “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว 12,978,844 ราย เตือน! ไม่ผ่านต้องยื่นอุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายใน 1 พฤษภาคม 2566

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษก กระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการใช้สิทธิภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2566 ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (โครงการฯ) ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 (ผู้มีสิทธิฯ) ณ วันที่ 5 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น. มีมูลค่าการใช้สิทธิสะสมจำนวนกว่า 2,644.60 ล้านบาท จากผู้มีสิทธิฯ จำนวนกว่า 8.67 ล้านราย

อุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ทั้งนี้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการใช้สิทธิในวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด และวงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นวันแรกที่มีการเริ่มใช้สิทธิ พบว่า ผู้มีสิทธิฯ บางส่วนที่ยืนยันตัวตนที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) สำเร็จแล้ว โดยเมื่อไปใช้สิทธิที่ร้านธงฟ้าฯ พบว่า ไม่สามารถจำรหัสส่วนบุคคล (PIN) หรือต้องการเปลี่ยนแปลงรหัส PIN ที่เคยกำหนดไว้ในขั้นตอนการยืนยันตัวตน ซึ่งในกรณีดังกล่าว ผู้มีสิทธิฯ สามารถดำเนินการได้ ดังนี้

อุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

เปลี่ยนแปลงรหัส PIN

  1. กรณีต้องการเปลี่ยนรหัส PIN ใหม่ สามารถดำเนินการได้ที่สาขาของธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารออมสิน และธ.ก.ส. ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป โดยรหัส PIN ใหม่จะต้องไม่ซ้ำกับรหัส PIN เดิมที่เคยกำหนด 10 ครั้ง ย้อนหลัง และต้องทำการยืนยันตัวตนทุกครั้งที่เปลี่ยนรหัส PIN ซึ่งจะสามารถใช้สิทธิได้หลังจากกำหนดรหัส PIN ใหม่ ประมาณ 2 ชั่วโมง
  2. กรณีกดรหัส PIN ตามที่เคยกำหนดไว้ในขั้นตอนการยืนยันตัวตนไม่ถูกต้อง จำนวน 3 ครั้ง จะถูกระงับการใช้งาน (สำหรับสิทธิสวัสดิการที่ต้องใส่รหัส PIN) ซึ่งผู้มีสิทธิฯ สามารถติดต่อขอทำการยืนยันตัวตนกำหนดรหัส PIN ใหม่ โดยต้องดำเนินการตามข้อ 1
  3. กรณีที่ดำเนินการยืนยันตัวตนแล้ว แต่มีการเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชน เนื่องจากบัตรประจำตัวประชาชนหมดอายุ หรือสูญหาย จะต้องอายัดสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐด้วยตนเองผ่านระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ กับศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (Call Center) หมายเลขโทรศัพท์ 02 109 2345 ซึ่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยฯ ตามวันและเวลาทำการของสาขาของธนาคารกรุงไทยฯ ในวันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 17.30 น. โดยผู้มีสิทธิฯ ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนใบใหม่ไปติดต่อขอทำการยืนยันตัวตนเพื่อกำหนดรหัส PIN ใหม่ โดยต้องดำเนินการตามข้อ 1

อุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

สำหรับความคืบหน้าของผู้ที่ผ่านเกณฑ์ตามโครงการฯ ที่ดำเนินการยืนยันตัวตนแล้ว โดยข้อมูล ณ วันที่ 5 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น. พบว่า มีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จจำนวนทั้งสิ้น 12,978,844 ราย (88.91% ของจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งหมดจำนวน 14,596,820 ราย) และจำนวนผู้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ณ วันที่ 5 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น. มีจำนวนทั้งสิ้น 1,228,976 ราย

สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์ที่ไม่ได้ดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 ยังคงสามารถยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารออมสิน และธ.ก.ส. ได้ตามวันเวลาที่ธนาคารกำหนด และสามารถเริ่มใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามวันที่กระทรวงการคลังกำหนด ซึ่งในการยืนยันตัวตนผู้ผ่านเกณฑ์จะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) และต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้

เนื่องจากการผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ล่วงหน้าจะทำให้ผู้ได้รับสิทธิโครงการฯ สะดวกในการรับสิทธิสวัสดิการ หากภาครัฐมีการให้สวัสดิการเป็นเงินโอนเข้าบัญชีในอนาคต ทั้งนี้ ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ เนื่องจากการตรวจสอบสถานะบัตรประจำตัวประชาชนไม่ผ่านซึ่งในกรณีนี้ขอให้ผู้ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลได้ ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และหากตรวจสอบและแก้ไขสถานะบัตรประจำตัวประชาชนแล้ว ให้ดำเนินการยืนยันตัวตนอีกครั้ง

อุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

นอกจากนี้ การยืนยันตัวตนไม่สำเร็จอาจเกิดจากกรณีเปรียบเทียบใบหน้าไม่ผ่าน ซึ่งผู้ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จกรณีเปรียบเทียบใบหน้าไม่ผ่านขอให้ติดต่อธนาคารกรุงไทยฯเพื่อดำเนินการยืนยันตัวตนตามขั้นตอนของธนาคารกรุงไทยฯ ต่อไป

โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ขอให้รีบดำเนินการยื่นขออุทธรณ์ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 โดยดำเนินการผ่าน 2 ช่องทาง ดังนี้

  1. ขออุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน หรือ
  2. ขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทยฯ ธ.ก.ส. สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร หรือศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน โดยให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติ ซึ่งผู้ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนก่อนดำเนินการยื่นอุทธรณ์

ทั้งนี้ เมื่อผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติได้ทำการยื่นขออุทธรณ์ตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว ขอให้ไปติดต่อเพื่อขอตรวจสอบและ/หรือขอปรับปรุงแก้ไขข้อมูลในกรณีที่ข้อมูลไม่ถูกต้องให้ถูกต้องได้ที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้วยตนเอง หรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติกำหนด โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ซึ่งประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดโครงการฯ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ https://welfare.mof.go.th

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK