ครม.อนุมัติขยายเวลายื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบ และการนำส่งเงินสมทบของนายจ้างและผู้ประกันตน พื้นที่ประสบภัยพิบัติ 3 เดือน ตั้งแต่ ธ.ค.61 – ก.พ.62 คิดเป็นวงเงิน 1.8 หมื่นล้าน
พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 กระทรวงแรงงานได้เสนอร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบของนายจ้าง และผู้ประกันตน ในท้องที่ที่ประสบภัยพิบัติ พ.ศ. …. เพื่อให้ครม. เห็นชอบและประกาศใช้เป็นกฎหมาย
ทั้งนี้ ครม.มีมติเห็นชอบร่างประกาศดังกล่าว ทำให้นายจ้างและผู้ประกันตน ที่อยู่ในท้องที่ที่เกิดวาตภัยและอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) จำนวน 23 จังหวัด ได้แก่ 1. กระบี่ 2. จันทบุรี 3. ชุมพร 4. ชลบุรี 5. ตรัง 6. ตราด 7. นครศรีธรรมราช 8. นราธิวาส 9. ประจวบคีรีขันธ์
10. ปัตตานี 11. พังงาน 12. พัทลุง 13. เพชรบุรี 14. ภูเก็ต 15. ยะลา 16. ระนอง 17. ระยอง 18. สงขลา 19. สตูล 20. สมุทรปราการ 21. สมุทรสงคราม 22. สมุทรสาคร และ 23. สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นนายจ้างในสถานประกอบการจำนวน 129,981 แห่ง มีผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จำนวน 3,517,817 คน และผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จำนวน 411,358 คน รวมทั้งสิ้น 3,929,175 คน
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่าร่างประกาศกระทรวงแรงงานฉบับนี้ จะขยายเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบ และการนำส่งเงินสมทบของนายจ้าง สำหรับค่าจ้างงวดเดือนธันวาคม 2561 – กุมภาพันธ์2562 โดยยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบ ภายในวันที่ 15 เมษายน 2562 และขยายกำหนดเวลาการนำส่งเงินสมทบของผู้ประกันตนตามมาตรา 39
สำหรับเงินสมทบที่ต้องนำส่งประจำงวดเดือนเดือนธันวาคม 2562- กุมภาพันธ์ 2562 โดยให้นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนภายในวันที่ 15 เมษายน 2562
ทั้งนี้ การขยายเวลายื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบของนายจ้างตามมาตรา 47 และขยายเวลาการนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนของผู้ประกันตน ตามมาตรา 39 นายจ้างและผู้ประกันตน ไม่ต้องชำระเงินเพิ่มตามกฎหมายภายในกำหนดระยะเวลาที่ขยายออกไป สำหรับการยืดเวลาจ่ายเงินสมทบของนายจ้างเป็นเวลา 3 เดือน คิดเป็นวงเงินเดือนละประมาณ 6,000 ล้านบาท รวม 3 เดือน เป็นเงินทั้งสิ้น 18,000 ล้านบาท
“การขยายกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะไม่ได้รับผลกระทบต่อการใช้สิทธิรับผลประโยชน์ทดแทน เนื่องจากมาตรา 47 ให้ถือว่าผู้ประกันตนได้จ่ายเงินสมทบแล้วทุกครั้งที่มีการจ่ายค่าจ้าง และผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จะไม่มีผลต่อสถานภาพการเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ดังนั้นขอให้ผู้ประกันตน มั่นใจได้ว่าจะสามารถใช้สิทธิรับผลประโยชน์ทดแทนได้ตามปกติ” พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว