ส.อ.ท. ตั้งเป้ายอดผลิตรถยนต์ปี 2567 ที่ 1,900,000 คัน เพิ่มขึ้น 3.17% ห่วงหนี้ครัวเรือนสูง หนี้สาธารณะสูง ค่าครองชีพสูง อัตราดอกเบี้ยสูง ส่งผลกระทบต่ออำนาจซื้อของประชาชนลดลง
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คาดว่าการผลิตรถยนต์ในปี 67 ประมาณ 1,900,000 คัน มากกว่าปี 2566 ซึ่งมีจำนวน 1,841,663 คัน เพิ่มขึ้น 3.17% แบ่งเป็น ผลิตเพื่อการส่งออก และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ โดยการผลิตเพื่อการส่งออก คาดว่าจะอยู่ที่ 1,150,000 คัน เท่ากับ 65% ของยอดการผลิตทั้งหมด โดยลดลง 0.52% จากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 1,156,035 คัน
โดยมีปัจจัยบวก ได้แก่
- ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะ ซึ่งขนส่งสินค้า และคนเพื่อส่งออกไปทั่วโลกกว่า 100 ประเทศ จึงอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากจากเศรษฐกิจชะลอตัว
- ประเทศจีนเปิดประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้การค้าโลก และการท่องเที่ยวเติบโต เป็นผลดีต่อการส่งออกของหลายประเทศดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกของประเทศไทย
- การขาดแคลนชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์คลี่คลายลงมาก ส่งผลให้การผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น
- การลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย อาจมีการส่งออกยานยนต์ไฟฟ้า
- คำสั่งซื้อสินค้าจากประเทศคู่ค้า สหรัฐฯ, ยุโรป และจีน เพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดที่มีศักยภาพ เช่น กลุ่มอ่าวอาหรับ GCC
- อัตราดอกเบี้ยอาจอยู่ในช่วงขาลง ทำให้เศรษฐกิจโลกดีขึ้น
ปัจจัยลบ ได้แก่
- การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง และความขัดแย้งระหว่างประเทศอาจขยายตัวเพิ่มขึ้น ทั้งที่เกิดขึ้นแล้วและการเพิ่มขึ้นใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อการส่งออกลดลง และเงินเฟ้ออาจสูงขึ้น
- ตลาดทั้งในและต่างประเทศเกิดการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในสินค้าประเภทเดียวกัน และคู่แข่งเกิดขึ้นในภูมิภาคเพิ่มขึ้น
- นโยบายของประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออก เช่น การขึ้นภาษีสรรพสามิตในรถยนต์บางประเภทในสปป.ลาว
ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศอยู่ที่ประมาณ 750,000 คัน เท่ากับ 35% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 9.39% จากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 685,628 คัน
ปัจจัยบวก ได้แก่
- การย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาไทย ทำให้เกิดการเชื่อมโยง Supply Chain ของอุตสาหกรรม
- ความต้องการสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นทั่วโลก จากกฎระเบียบและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
- เริ่มมีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
ปัจจัยลบ ได้แก่
- หนี้ครัวเรือนสูง หนี้สาธารณะสูง ค่าครองชีพสูง อัตราดอกเบี้ยสูง ส่งผลกระทบต่ออำนาจซื้อของประชาชนลดลง ทำให้ยอดขายอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งมี Supply chain หลายอุตสาหกรรมชะลอตัวลง ส่งผลต่อการจ้างงาน ทำให้รายได้คนงานก่อสร้างและโรงงานลดลง
- งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ล่าช้าออกไปราว 8 เดือนทำให้การลงทุน และการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าช้าออกไปด้วย ส่งผลให้การลงทุนการจ้างงานของเอกชนล่าช้าออกไป เศรษฐกิจจึงเติบโตในระดับต่ำ
- ภัยธรรมชาติที่คาดไม่ถึง อาจจะกระทบต่อผลผลิตและรายได้เกษตรกร
- ความขัดแย้งระหว่างประเทศอาจขยายตัว และเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่ จะส่งผลให้ราคาพลังงาน สินค้า และวัตถุดิบสูงขึ้น
- การส่งออกสินค้าต่าง ๆ ในปีนี่อาจลดลงจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ส่งผลการผลิตการลงทุนการจ้างงานลดลง อำนาจซื้อลดลง
“ยังคงกังวลเรื่องความขัดแย้ง และสงคราม ว่าจะขยายวงกว้างไปมากกว่านี้หรือไม่ ซึ่งก็เริ่มเห็นแนวโน้มแล้วว่าตอนนี้เริ่มขยายตัว อาจจะกระทบการส่งออกและยอดขายในประเทศได้ อย่างไรก็ดี ยอดขายประเทศคู่ค้าเติบโตดีมาก ส่วนปัจจัยในประเทศคาดว่า เม็ดเงินลงทุนภาครัฐในเดือน พ.ค. จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และทำให้ยอดขายดีขึ้นได้” นายสุรพงษ์ กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ส.อ.ท.’ เผยยอดผลิตรถยนต์เดือน พ.ย. ร่วง 14.10% ขณะที่ยอดขายลดลง 9.76%
- ยอดส่งออกรถยนต์เดือน ต.ค. โตพุ่ง 12.20% ขณะที่ยอดผลิตลดลง 7.02%
- เผยยอดส่งออกรถยนต์เดือน ส.ค. พุ่ง 19.41% มั่นใจส่งออก 1.05 ล้านคันตามเป้า
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg