กระทรวงมหาดไทย ปลดล็อค แก้ไขระเบียบ ให้ อปท. พิจารณาช่วยเหลือเยียวยาประชาชนได้รวดเร็ว กรณีจำเป็น เร่งด่วน
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัด กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความเดือดร้อนและความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก
กระทรวงมหาดไทย ได้รับทราบจากเสียงสะท้อนของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจในการดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ ถึงปัญหาขั้นตอนการขออนุมัติให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ที่อาจส่งผลให้แก้ไขปัญหาไม่ทันการณ์
เนื่องจากระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) ที่เป็นระเบียบเดิม ได้ระบุไว้ว่า อปท. สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ 4 ด้าน คือ 1. ด้านสาธารณภัย 2. ด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต 3. ด้านการป้องกันและระงับโรคติดต่อ และ 4. ด้านการช่วยเหลือเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย
หากเป็นกรณีการช่วยเหลือที่นอกเหนือจาก 4 ด้านดังกล่าว อปท. แต่ละแห่ง ต้องทำความตกลงกับปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มอบอำนาจให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้ให้ความเห็นชอบ
เมื่อเกิดเหตุการณ์ในแต่ละครั้ง อปท. ต้องมีหนังสือทำความตกลงเป็นครั้ง ๆ ไป อันเป็นขั้นตอนที่อาจทำให้การแก้ไขปัญหาไม่ทันการณ์
ดังนั้น เพื่อเป็นการปลดล็อคข้อจำกัดของระเบียบกระทรวงมหาดไทยฯ ดังกล่าว ลดขั้นตอนการปฏิบัติ อันจะทำให้การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ จึงได้สั่งการให้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น พิจารณายกร่างแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ของอปท. เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พิจารณาเป็นการเร่งด่วน
ล่าสุด พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามประกาศใช้ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชน ตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2565 ซึ่งได้มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2565 เป็นต้นม
สำหรับระเบียบ ฯ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ เพื่อให้ผู้บริหาร อปท. สามารถพิจารณาช่วยเหลือประชาชนในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อฟื้นฟู เยียวยา สงเคราะห์ และบรรเทาผลกระทบของประชาชนให้ครอบคลุม รวดเร็ว และลดความล่าช้าที่เกิดขึ้น จากการต้องขอทำความตกลงกับปลัดกระทรวงมหาดไทย หรือผู้ว่าราชการจังหวัด
นอกจากนี้ ระเบียบ ฯ ใหม่ ยังไม่ต้องเสนอให้คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนของ อปท. พิจารณา เช่น กรณีฟ้าผ่าทำให้ประชาชนเสียชีวิต กรณีเสียชีวิตเนื่องจากช่วยเหลือ อปท. ปฏิบัติงานหรือช่วยเหลือผู้อื่น กรณีมีเหตุการณ์ใช้อาวุธทำร้ายประชาชนจนได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต โดยผู้ประสบภัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และกรณีตั้งศูนย์ช่วยเหลือค้นหาประชาชนที่สูญหาย เป็นต้น
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนในการช่วยเหลือประชาชน ผู้บริหาร อปท. ก็สามารถพิจารณาให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ตามความจำเป็น เหมาะสม ไม่เกินอัตราตามหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานรัฐกำหนด
ตัวอย่างเช่น การนำอัตราตามหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 ของกระทรวงการคลัง เพื่อช่วยเหลือด้านดำรงชีพเป็นค่าอาหาร จัดเลี้ยง 3 มื้อ มื้อละไม่เกิน 50 บาทต่อคน ค่าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บสาหัสเบื้องต้น เป็นเงินจำนวน 4,000 บาท ค่าจัดการศพผู้เสียชีวิตในอัตราไม่เกินรายละ 29,700 บาท เป็นต้น ซึ่งการช่วยเหลือประชาชนอาจช่วยเป็นสิ่งของหรือจ่ายเป็นเงินก็ได้
ส่วนกรณีการใช้จ่ายเงินของ อปท. ให้พิจารณาถึงผลกระทบต่อสถานะทางการคลังในการบริหารหรือการจัดการบริการสาธารณะ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น
ระเบียบ ฯ ใหม่ดังกล่าว จะช่วยให้ อปท. ทุกแห่ง สามารถฟื้นฟู เยียวยา สงเคราะห์ และบรรเทาผลกระทบของประชาชนได้คล่องตัว ครอบคลุม และช่วยเหลือประชาชนให้ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากไปได้โดยเร็ว
จากนั้นเมื่อสิ้นสุดโครงการช่วยเหลือต่าง ๆ ก็ขอความร่วมมือให้ อปท. เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินการให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบโดยทั่วกัน เป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน โดยให้ติดประกาศ ณ สำนักงาน อปท. สถานที่กลาง และที่ทำการหมู่บ้าน และชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมกันทวนสอบให้เกิดความถูกต้อง และเกิดความโปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘นายกรัฐมนตรี’ ห่วงประชาชน! สั่งเร่งเยียวยาน้ำท่วม ระบายน้ำอย่างเร่งด่วน
- ภารกิจแรก ‘บิ๊กตู่’ เข้ามหาดไทยเรียกประชุม ‘ผู้ว่าฯ’ ทั่วประเทศ ลุยแก้น้ำท่วม
- ‘เยียวยาน้ำท่วม’ เช็คเลย รัฐช่วยเหลืออะไร ใครมีสิทธิได้ มัดรวมที่นี่!!
